NARS Cosmetics Fall Collection 2010 Online Exclusive: Super Restorative Age-Defying Set - a $207 value for $132!

15 มิถุนายน 2553

Benefit Dr.Feelgood

สั่งซื้อมาเพราะเข้าใจว่าจะเป็นไปตามสรรพคุณอันเลอเลิศที่ว่า ช่วยคุมมันและอำพรางรูขุมขน

เนื้อบาล์มสีขาว ไม่มีกลิ่น ซึ่งต้องใช้นิ้ววนๆอยู่นานพอสมควรถึงจะเริ่มเปลี่ยนเป็นเนื้อเนียนๆ ถ้าปาดแล้วทาเลยจะเป็นคราบและทาไม่ติด ทาแล้วก็รู้สึกเหมือนหน้าโดนเคลือบอยู่ และไม่ได้ช่วยอำพรางรูขุมขนแต่อย่างใด ริ้วรอยไม่ต้องพูดถึง สีขาวๆแบบนี้ไม่น่าจะช่วยปกปิดอะไรได้อยู่แล้ว หนำซ้ำถ้าทาก่อนลงรองพื้น ก็ทำให้รองพื้นไม่ติด พากันหลุดออกมาทั้งบาล์มและรองพื้นซะงั้น ต้องเปลี่ยนวิธีการเป็นทาท้ายสุด และจึงตามด้วยแป้ง ซึ่งก็มีโอกาสที่แป้งเป็นคราบเช่นกัน สรุปคือ เกลี่ยง่าย แต่ไม่ค่อยเวิร์คกับการเมคอัพ ส่วนเรื่องคุมมัน ก็ค่อนข้างพอใจ เพราะช่วยคุมได้บ้าง ทำให้หน้ามันช้าลง และล้างออกง่าย ไม่อุดตันรูขุมขน เหมาะกับทาเฉพาะส่วนมากกว่า เช่น T-zone เพราะอย่างที่บอกไปว่าเหมือนหน้าโดนเคลือบ –“-

คะแนน : 2/5 (ให้แค่คุมมันพอไหว)

20 มีนาคม 2553

Clinique Deep Comfort Body Lotion

Deep Comfort Body Lotion ตัวล่าสุดจาก Clinique มาแบบขวดหัวปั๊มใช้สะดวกกับขนาดบิ๊กบึ้ม 400 ml. ที่ใช้ได้นานมาก เนื้อโลชั่นไม่เข้มข้นมาก และก็ไม่เหลวจนเกินไป ตอนแรกที่ลองตรงเคาน์เตอร์คิดว่ามันคงบางเบาเกินไปสำหรับเรา เพราะปกตินิยม body butter  แต่พอลองทาเท่านั้นแหละ ซึมลงผิวเร็วมากๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ที่สำคัญคือ ผิวนุ่มและรู้สึกเหมือนว่าผิวได้ดื่มน้ำ (ดูเหมือนเว่อร์ๆอย่างกะโฆษณา แต่มันรู้สึกอย่างนี้จริงๆนะ) ก็เลยสอยมาใช้ซะเลย ซึ่งเวิร์คมากๆสำหรับทาหลังการอาบน้ำ หรือใช้บำรุงผิวในหน้าร้อน

เรื่องสรรพคุณ หลักๆก็คือให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้สุดๆ ส่วนเรื่องขาวเนียนหรือลดริ้วรอยไม่เห็นผลค่ะ

สำหรับกลิ่น ขวดนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ ก็เลยมีกลิ่นคล้ายๆกับครีมทาหน้าอื่นๆของคลีนิกข์เนี่ยแหละ รับรองกลิ่นไม่ตีกับน้ำหอมที่ใช้แน่ๆ 

คะแนน 5/5

Perfume Grand Sale

แจ้งข่าวมหกรรมเซลล์น้ำหอมค่ะ มีหลากหลายยี่ห้อ ลดกันตั้งแต่ 20% จนถึง 70% กันเลย แต่ละยี่ห้อมีจำนวนจำกัดนะคะ

ข่าวเพิ่มเติมจากคุณ Tanuphat ค่ะ
เนื่องจากทาง O Za ได้รับกระแสตอบรับ ความสนใจเป็นอย่างดีมาก เลยได้เพิ่มโปรโมชั่นสุดแรงรับวัน หยุดหน้าร้อน
ที่กำลังจะมาถึง มาให้ทุกคนได้รีบซื้อหาจับจองครับ กับน้ำหอม 5 ยี่ห้อดัง ได้แก่
- Gucci
- Bvlgari
- CK
- Kenzo
- Davidoff
ทั้ง 5 ยี่ห้อนั้น พร้อมใจกันลดราคาให้เพิ่มจาก หน้าเว็ป ที่ลดเพียง 20 %
แต่ตอนนี้ ถ้าลูกค้าท่านใด ซื้อ 2 ขวด เราลดให้เพิ่มเป็น ขวดละ 30%
"แต่พิเศษยิ่งกว่านั้น ถ้า สั่งซื้อ 3 ขวดขึ้นไป ใน 1 ยอดบิลการสั่งซื้อ เราลดให้ไปเลย ขวดละ 40%"
"ของมีจำนวนจำกัดนะครับ" และขอย้ำอีกครั้งกับลูกค้าที่สงสัยว่า สินค้าของเราแท้หรือไม่แท้อย่างไร เรากล้ารับประกันสินค้าทุกชิ้น ว่านำมาจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับลิขสิทธิ์ในเมืองไทยจริงๆ
เพราะทุกสินค้าเราจะมีสติ๊กเกอร์ที่การันตีว่าเป็นของแท้จริง จากตัวแทนจำหน่ายนั้นๆ เข้า ไปอ่านข้อมูลได้เพิ่มในหน้า REVIEW ครับ
"โปรสุดแรงตัวนี้ เริ่มเวลาเที่ยงตรงของวันที่ 26 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม เท่านั้นนะครับ"
ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ติดตามข่าวสารของทาง O Za
เราหวังว่า ลุกค้าทุกท่านจะได้รับความพึงพอใจอย่างสูงสุด เมื่อได้สินค้าที่ดี มีคุณภาพ และราคาพิเศษเช่นนี้จากเรา
เดือนหน้าเราจะนำอะไรมาลด ขอให้ติดตามได้ที่ www.sale-lovers.com และ เว็ปบอร์ดจะเปิดให้ได้ใช้งานในเร็วๆ นี้ครับ เพื่อเป็นสื่อกลางสังคมออนไลน์ของคนชอบของดีราคาถูก เข้ามาสนทนากันและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันครับ

โพสเมื่อ 26 มีนาคม 2553, 14:20

Q9009688-0

4 มีนาคม 2553

Workshop แต่งหน้าขั้นพื้นฐาน ฟรี!

แจ้งข่าว workshop แต่งหน้าขั้นพื้นฐาน กับเครื่องสำอาง Oriflame ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่รับจำนวนจำกัดนะคะ
ใน workshop ครั้งนี้จะได้เรียนรู้
- ศิลปการสร้างสรรความงามอย่างถูกวิธี ถูกขั้นตอน เพื่อความงามอย่างมีรสนิยม
- เลือกเฉดสีอย่างไรให้เหมาะสม เพื่อความหมายแห่งสีสรรที่จะสะกดสายตาผู้พบเห็น
- ตวัดเส้น เล่นสี อย่างไร ให้โดดเด่นโดนใจ จนหลงไหลเมื่อได้เห็น
สถานที่ : อาคารออริเฟลม (ชั้น 4) ถ.พัฒนาการ (สี่แยกคลองตัน) กรุงเทพฯ

สอบถามรายละเอียด รอบการอบรมและสำรองที่นั่งได้ที่ คุณณัฐ โทร. 086 3751546 , 086 3620845 (รับจำนวนจำกัด)

2 กุมภาพันธ์ 2553

Tokyo Street Fashion (2) : Basic Items

ต่อจากเทรนด์สีมาแรง ก็เป็นการจับไอเท็มต่างๆมา mix and match กันต่อ โดยไอเท็มที่จะพูดถึงต่อไปนี้ล้วนแต่เป็นไอเท็มที่หาได้ง่าย และหลายๆคนคงมีไว้ในครอบครองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไอเท็มที่ควรมีไว้เพราะสามารถนำมาใช้ได้ตลอดไม่มีวันตกยุคจริงๆ

style-arena.jpลายตาราง
ลายตารางถือว่าเป็นลายเสื้อที่พบได้มากเลยทีเดียวในย่านวัยรุ่นอย่างฮาราจูกุ เรียกได้ว่าหากนั่งจิบกาแฟอยู่ในร้านกาแฟใจกลางย่านนั้นอาจพบคนใส่เสื้อผ้าลายตารางได้ถึง 4 ใน 10 ของผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็ว่าได้ สไตล์ของเสื้อที่กำลังนิยมนั้นคือแบบเสื้อเชิ้ตลายตารางเข้ารูป ปลายแขนพับขึ้น หรืออาจมีที่รั้งปลายแขนก็เพิ่มความน่ารักไปอีกแบบ นอกจากนี้หากเป็นเสื้อลายตารางตัวยาวก็สามารถนำเข็มขัดที่มีสีพื้น เช่น ขาว ดำ หรือ น้ำตาล มาคาดก็เติมความเท่ห์ให้เพิ่มขึ้นได้เลยทีเดียว

style-arena.jpลายดอกไม้
เสื้อลายดอกยังคงอินเทรนด์มาหลายศตวรรษ ซึ่งถือเป็นหนึ่งสไตล์ที่เรียกว่าอมตะเลยทีเดียว สวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงหรือแม้แต่ผู้ชายใส่ลายนี้ก็ดูอ่อนหวานไม่เบา ทั้งนี้แฟชั่นลายดอกของญี่ปุ่นได้ออกแบบให้เป็นดอกไม้ในป่าเขตร้อน หรือที่เรียกว่าทรอปิคอล ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้พบเห็น หรือแม้แต่ผู้ที่หยิบลายดอกไม้ดังกล่าวมาสวมใส่เองก็จะดูร่าเริงขึ้นได้เช่นเดียวกัน

style-arena.jpลายใหญ่โต
วัยรุ่นญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยชอบสวมใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายขนาดใหญ่ยักษ์ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายเรขาคณิต ลายดาว หรือแม้แต่ลายหัวกะโหลกมาแต่งเติมลงบนเนื้อผ้าไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด ชุดแซ็ก หรือกระโปรงก็ตามที ไม่ว่าจะหยิบลวดลายไหนมาสวมใส่ แต่ก็ต้องขอเด่นด้วยความใหญ่ยักษ์ของลายบนเสื้อผ้า นี่แหละคือสาระสำคัญของเทรนด์นี้ หรือ แม้แต่การมัดย้อมให้มีแถบสีในขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และห่างกันก็เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นสไตล์นี้เช่นกัน วัยรุ่นชาวไทยคนไหนมีผ้ามัดย้อมแถบสีค่อนข้างใหญ่และห่างกันถือว่าได้โอกาสอินสุดๆในแบบญี่ปุ่นได้ทันที หรือจะสรรหามาใหม่ก็ได้ไม่ยากเย็นเพราะผ้ามัดย้อมมีให้เลือกสรรมากมายในเมืองไทย แถมท้ายด้วยคุณภาพที่ดี สวมใส่สบายอีกด้วย

style-arena.jpเข็มขัดใหญ่
นับว่าเป็นเครื่องประดับที่เรียกได้ว่าฮอตกันทั่วบ้านทั่วเมืองไม่เว้นแต่ญี่ปุ่นหรือประเทศไทย เพราะสาวไทยเกินกว่าครึ่งก็ยังคงมีวางอยู่ในตู้เสื้อผ้าไม่ต่ำกว่าหนึ่งชิ้นแน่นอน เช่นเดียวกับสาวแดนอาทิตย์อุทัยที่นิยมนำเข็มขัดใหญ่มาคาดกลางชุดแซ็ก หรือ สวมใส่เสื้อตัวยาวที่มีการตัดเย็บรูปทรงสไตล์เข้ารูปบริเวณเอว และนำเข็มขัดมาคาดกลางได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังนิยมคาดเข็มขัดใหญ่กับกระโปรงที่มีลักษณะผ้าบางพริ้ว รูปทรงระบายเป็นชั้นๆ อีกด้วย

style-arena.jpหมวกทรงฮู้ด
เสื้อคลุมแบบมีหมวกฮู้ดทรงกลมถือว่าเป็นเทรนด์แฟชั่นอีกแบบที่กำลังมาแรงในระยะนี้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นนิสต้าจะหญิงหรือชายชาวญี่ปุ่นต่างสรรหารูปแบบเสื้อคลุมทรงเก๋มาสวมใส่ เพื่อเสริมสร้างสไตล์ให้กับตัวเอง โดยเนื้อผ้าของเสื้อที่สวมใส่จะแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล บางบ้างเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนหรือหนาบ้างเมื่ออากาศหนาว แต่มักจะเสริมลูกเล่นโดยการพิมพ์ลวดลายไว้ด้านในของหมวก หรือตกแต่งด้วยการเย็บขอบหมวกต่างสี หรือกุ๊นสีสันอื่นๆลงไป เป็นต้น

เนื้อหา MSN Thailand
ภาพประกอบ style-arena.jp

Tokyo Street Fashion (1) : 6 เทรนด์สีมาแรง

แฟชั่นของญี่ปุ่นและเกาหลีเข้ามามีอิทธิพลกับวงการแฟชั่นของไทยได้พักใหญ่ๆ และมีทีท่าว่าจะยาวนานต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะแนวสตรีทแฟชั่น ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าสามารถใช้ไอเดียในการ mix and match ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีเสื้อผ้าสไตล์ไหน ราคาเท่าไหร่ จะมีจำนวนมากน้อยเพียงใด ก็แต่งตัวได้สนุกไม่ซ้ำกัน ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ คุณอายาโกะ เคเนตะ Executive Account Manager, Global Product Supply Chain, คอตตอน อินคอร์ปอเรท แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้แนะนำและคาดการณ์เทรนด์ของโตเกียวสตรีทแฟชั่นไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยเราสามารถนำไปประยุกต์กับการแต่งกายได้แบบไม่ตกเทรนด์แน่นอนค่ะ

เริ่มต้นจาก 6 เทรนด์สีมาแรง

style-arena.jp สีเทา
สีเทาถูกเลือกให้เป็นสีแห่งความปลอดภัยของสาวๆที่ลังเลว่าจะเป็นสาวหวานหรือสาวแรง วัยรุ่นญี่ปุ่นนิยมเลือกเสื้อผ้าสีเทาที่มีการดีไซน์ หรือเติมลวดลายที่อ่อนหวานลงบนเนื้อผ้ามาสวมใส่ เช่น เดรสเสื้อผ้าสีเทาที่ขลิบชายด้วยลูกไม้เก๋ๆ หรือเสื้อตัวยาวที่ต่อชายเสื้อด้วยลูกไม้บางๆ เพียงแค่นี้ก็ทำให้ลุคเท่ๆของสีเทามีกลิ่นอายของความอ่อนโยนอ่อนหวานเพิ่มเติมเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

style-arena.jpสีดำ
สีเบสิคอย่างสีดำดูเหมือนจะได้รับความนิยมในทุกซีซันสาวๆญี่ปุ่นหลายคนนิยมเลือกเสื้อผ้าพื้นสีดำที่มีการตัดของสีสันอื่นๆบนชุดมาสวมใส่ เช่น เสื้อดำตัวเก๋ที่มีสีชมพูตัดบนปกเสื้อด้วย หรือ มีการเติมไอเท็มระบายขลิบขาวบนเสื้อผ้า ที่ล้วนสร้างความเก๋ไก่ ดูแล้วไม่มืดจนเกินไปอีกด้วย

style-arena.jpสีฟ้า
เทรนด์สีฟ้าของสาวญี่ปุ่นในช่วงนี้คงต้องยกให้ผ้าเดนิม ยีนส์สุดชิค ซึ่งใช้ผ้าฝ้ายเป็นวัตถุดิบในการตัดเย็บ เพราะไม่เพียงแต่รูปทรงที่ใส่สบายแล้ว เนื้อผ้ายังช่วยระบายอากาศได้ดีอีกด้วย สาวๆฮาราจูกุที่ติดเทรนด์ชอบมากกับการสวมใส่ชุดแซ็กเดนิมหรือเสื้อเดนิมตัวยาว อาจเพิ่มความแปลกใหม่โดยการเลือกชุดที่มีความยับย่น หรือ เลือกชุดที่นำมาผ้ามาต่อเป็นชั้นๆ หรือ ปรับโทนสู่สไตล์สาวหวานด้วยผ้าพันคอเก๋ๆ ซักชิ้น แค่นี้ก็ทำให้สาวๆเลือกเก๋ไก๋ในลุคมารีนได้อย่างสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

style-arena.jpสีเหลือง
สีเหลืองของแฟชั่นญี่ปุ่นยุคนี้ค่อนข้างไปในโทนที่มีความอ่อนลง ซึ่งเหล่าดีไซเนอร์ส่วนมากก็นิยมเลือกสีเหลืองอ่อนมาผสมผสานลวดลายเบาบางเพื่อให้ดูหวาน และอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น เช่น การเติมลวดลายสีเทาอ่อนบนเนื้อผ้า หรือ การพิมพ์ลายดอกเล็กๆลงบนเนื้อผ้าลงไป นอกจากนี้ แอคเซสเซอร์รี่เก๋ๆที่ใช้โทนสีเหลืองยังเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่วัยรุ่นฮาราจูกุกำลังนิยมในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น หมวก ผ้าคาดผม หรือ ผ้าพันคอเป็นต้น

redสีแดง
สีแดงสำหรับวัยรุ่นไทยบางคนอาจดูร้อนแรงไป หรือไม่ผู้ที่สวมใส่ก็ต้องมีความมั่นใจตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม แต่สำหรับวัยรุ่นญี่ปุ่นไม่ว่าหญิงหรือชาย กลับนิยมและชอบสวมใส่เสื้อผ้าในโทนสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น กางเกงสีแดงสดที่กำลังอินมากๆสำหรับหนุ่มๆโตเกียว หรือเสื้อสวยๆที่มีลายเรขาคณิตสีแดงสดสำหรับสาวๆ เป็นต้น

style-arena.jpสีชมพู / สีม่วง
เหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าแห่งเมืองโตเกียวหลายคนปฏิเสธการใส่เสื้อผ้าที่มีสีชมพู หรือสีม่วงแบบเดี่ยวๆ แต่กลับชื่นชอบการใส่เสื้อผ้าที่มีการจับโทนคู่สีตั้งแต่สองสีขึ้นไปอีกด้วย เช่น สีม่วงกับสีฟ้า หรือ สีชมพูกับสีเขียว รวมไปถึงการสวมใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายสีชมพู หรือ สีม่วง ตัดกันอีกด้วย

เนื้อหา MSN Thailand
ภาพประกอบ style-arena.jp

23 มกราคม 2553

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนใส่คอนแทคเลนส์

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะหัดใส่คอนแทคเลนส์ หรือกำลังจะสั่งซื้อมาใช้งาน นี่เป็นขั้นตอนง่ายๆในการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มใช้คอนแทคเลนส์ เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตาค่ะ

1. วัดสายตา
ค่าสายตาที่เหมาะสมกับการใส่คอนแทคเลนส์คือ ค่าสายตาปัจจุบันหักลบด้วย 25 ถึง 50 เนื่องจากการใส่คอนแทคเลนส์จะใส่แบบสัมผัสโดยตรงกับดวงตา ซึ่งต่างกับการใส่แว่นที่ต้องเว้นระยะห่างจากดวงตา แนะนำว่าให้ปรึกษากับจักษุแพทย์เพื่อขอคำแนะนำค่าสายตาที่เหมาะสมสำหรับการใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ

2. ตรวจสอบความพร้อมของดวงตา
สิ่งที่ต้องใส่ใจ คือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าดวงตาไม่มีปัญหาการติดเชื้อ สำหรับผู้ที่เคยมีอาการแพ้สารเคมีบางอย่าง ควรศึกษาสารประกอบในคอนแทคเลนส์ก่อน เพื่อให้ลดความเสี่ยงจากการแพ้สารเคมี

3. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
อุปกรณ์ที่จำเป็นเหล่านี้ ได้แก่ น้ำยาล้าง/แช่เลนส์ และตลับใส่เลนส์ ซึ่งมีส่วนในการช่วยรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของผู้สวมใส่ จึงไม่ควรละเลย หรือเลือกใช้ของที่ไม่มีคุณภาพนะคะ สามารถหาซื่้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ร้านแว่น หรือคลีนิคจักษุแพทย์ค่ะ

น้ำยาแช่/ล้างเลนส์
สำหรับแช่และล้างคอนแทคเลนส์ บางยี่ห้อสามารถนำมาหยอดตาแทนน้ำตาเทียมได้ด้วย แต่ต้องศึกษาฉลากให้ดีก่อนนะคะ เพราะยี่ห้อที่หยอดตาไม่ได้ หากนำมาหยอดตาอาจเกิดอันตรายได้

ตลับแช่เลนส์

ส่วนใหญ่จะแถมมากับน้ำยาแช่/ล้างอยู่แล้ว เป็นตลับที่มีสองช่อง สำหรับใส่คอนแทคเลนส์ด้านซ้ายกับด้านขวา ตลับแช่จะใช้ร่วมกับน้ำยาแช่เลนส์ ซึ่งควรจะเปลี่ยนตลับประมาณ 3 เดือน/ครั้ง เพื่อความสะอาด

 

น้ำยาละลายคราบโปรตีน
น้ำยาละลายคราบโปรตีนจะแตกต่างกับน้ำยาแช่เลนส์ตรงที่ความเข้มข้นจะมากกว่า ใช้หยอดทีละ 1-2 หยด ลงไปในน้ำยาแช่เลนส์ และแช่ไว้ค้างคืนตามปกติ ใช้อาทิตย์ละครั้ง หรือเมื่อรู้สึกว่าเลนส์สกปรก
น้ำยาตัวนี้จะมาในรูปแบบของขวดเล็กๆเหมือนขวดยาหยอดตา หรือจะเป็นเม็ดๆเพื่อเปิดใช้ครั้งละเม็ด ห้ามนำไปหยอดตาโดยเด็ดขาดค่ะ

น้ำตาเทียม
มีทั้งในรูปแบบขวดและหลอดเล็กๆที่พกพาได้ สำหรับใช้หยอดตาเวลาตาแห้ง หรือรู้สึกระคายเคืองตาจากสิ่งสกปรกเล็กๆที่เข้าตา ก่อนซื้อต้องดูด้วยนะคะว่าเป็นชนิดที่ใช้ได้กับคอนแทคเลนส์หรือไม่ เพราะถ้าใช้ไม่ได้จะทำให้เลนส์ขุ่นมัวได้ค่ะ

น้ำเกลือ
สามารถนำมาล้างคอนแทคเลนส์ หรือล้างตลับก็ได้ แต่ไม่ควรนำมาแช่เลนส์ เพราะในบางคนอาจมีอาการแพ้และแสบตา

ขอบคุณข้อมูลจาก Favlens

21 มกราคม 2553

ร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเฮติ

มีบัญชีให้ร่วมบริจาคอยู่หลายบัญชีด้วยกัน แต่เราเลือกบริจาคของสภากาชาดไทยค่ะ โอนทางอินเตอร์เนตได้ สะดวกดีค่ะ โดยสามารถร่วมบริจาคได้ทาง

ธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาสภากาชาดไทย
ชื่อบัญชี  “สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ”
หมายเลขบัญชี  กระแสรายวัน   045-3-04368-1


พร้อมส่งใบโอนเงินไปที่ คุณ ภารดี   วนกุล  หัวหน้าฝ่ายการเงิน สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย หมายเลข  FAX  0-2250-0120  พร้อมระบุ ชื่อ–นามสกุล  หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อให้ชัดเจนเพื่อขอรับใบเสร็จ

สภากาชาดไทยยินดีรับบริจาคเป็นเงินเท่านั้น   เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่งสิ่งของสูงมาก  เงินบริจาคดังกล่าวจะนำไปสนับสนุนปฎิ บัติการบรรเทาทุกข์ของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ   ซึ่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่ในประเทศเฮติขณะนี้ 

สามารถสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  Call  Center  1664    และ   0-2256-4068  หรือ  0-256-4047– 8

20 มกราคม 2553

Review: L'Oréal Elsève Smooth-Intense Anti-Frizz Serum

elseve

ได้ตัวอย่างทดลองเป็นซองมาทั้งหมด 4 ซองค่ะ ปริมาณซองละ 7 ml. (ขนาดปกติ 100 ml.) ซองเดียวเราก็ใช้ได้ตั้งหลายครั้งเลยแหละ 3-4 ครั้งได้ เซรั่มตัวนี้เป็นชนิดไม่ต้องล้างออก หลังจากที่เช็ดผมให้หมาดๆหลังสระ ก็เทเซรั่มใส่มือทีละนิด เนื้อเซรั่มใสและไม่เหนียวค่ะ ค่อนข้างจะเหลวด้วยซ้ำไป มีกลิ่นหอมอ่อนด้วย ค่อยๆลูบจากโคนจรดปลายผม เน้นปลายผมเยอะๆหน่อย เราชอบตรงที่ไม่มีความเหนียวและความมันติดมือเหมือนเซรั่มอื่นๆที่เคยใช้

Elsève Smooth-Intense Anti-Frizz Serum ใช้ครั้งแรกยังไม่ค่อยรู้สึกว่าผมเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แค่ไดร์ง่ายขึ้น แต่พอครั้งที่ 2 ไปแล้ว เริ่มรู้สึกว่าผมลื่นขึ้น ถ้าทาไม่ทั่วผมทั้งศีรษะ ก็จะรู้สึกได้ชัดเจนเลยค่ะว่าผมบางส่วนลื่น บางส่วนก็ไม่ลื่น ส่วนเรื่องของการลดผมชี้ฟู ได้ผลแค่หลังการไดร์เสร็จใหม่ๆค่ะ พอข้ามคืนก็ไม่เห็นผลแล้ว แม้ว่าตรงซองจะบอกว่ามีประสิทธิภาพ 48 ชั่วโมงก็ตาม แต่ไม่แน่ว่าอาจจะขึ้นกับวิธีการไดร์ด้วย

เป็นเซรั่มที่น่าใช้มากๆตัวหนึ่งค่ะ เพราะไม่ทิ้งความมันไว้บนเส้นผมและมือ ทำให้ผมนุ่มลื่น และมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย

คะแนน : 5/5

12 มกราคม 2553

Review : Bihada Ichizoku Bihada Sara Mask

Bihada Sara Mask

มาส์คแบบทิชชูหรือแบบแผ่นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสาวๆที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะของมาส์คแบบปกติ และไม่ต้องเสียเวลาในการทำความสะอาดหลังหลังการมาส์ค แถมมาส์คแบบทิชชูยังอุดมไปด้วยคุณค่าจากเอสเซนส์มากมาย ส่วนใหญ่จะอ้างว่าเท่ากับการบำรุงด้วยเอสเซนส์ 1 ขวดเลยทีเดียว

มาส์คแบบทิชชูส่วนใหญ่ที่ได้ใช้ จะสะดวกและเห็นผลได้ชัดเจนค่ะ แต่ไม่ถาวร เหมาะกับการมาส์คเพื่อเพิ่มความขาวใสให้ใบหน้าแบบเร่งด่วน เช่น มาส์คก่อนออกงาน เป็นต้น แต่ถ้าอยากให้ผิวหน้าใสอยู่ตลอด คงจะต้องมาส์คอย่างสม่ำเสมอ ประมาณอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และมาส์คตามเวลาที่ระบุในฉลากด้วยนะคะ (ส่วนใหญ่ 5-20 นาที) เพราะถ้านานกว่านี้ ทิ้งไว้จนเช้า หรือมาส์คบ่อยเกินไป ผิวหน้าจะระคายเคืองได้ค่ะ

ล่าสุดได้ลองใช้ Bihada Sara Mask จาก Bihada Ichizoku มาส์คอันโด่งดังจากญี่ปุ่นที่มียอดขายถล่มทลายตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว ตอนนี้สามารถหาซื้อได้จากร้านวัตสันแล้วค่ะ ราคาถือว่าสูงมากถ้าเทียบกับมาส์คยี่ห้ออื่นๆ แต่พอเปิดซองออกมา เอสเซนส์ในซองเยอะมากๆค่ะ ปริมาณ 27 ml. ซึ่งชุ่มแผ่นมาส์ค เมื่อมาส์คจนครบเวลาก็ยังชุ่มอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะแห้งลงไปแม้แต่น้อย ตอนมาส์คก็ไม่ได้แสบหรือคันหน้าแต่อย่างใด ส่วนตัวไม่ประทับใจตรงที่เอสเซนส์เข้มข้นมาก ไม่ว่าจะพยายามทำอย่างไรก็ไม่ซึมลงผิวไปจนหมดเหมือนกับมาส์คยี่ห้ออื่นๆ นวดอยู่นานก็ไม่เป็นผล เลยต้องนอนทั้งๆที่หน้าเหนียว จริงๆในฉลากบอกว่าเอสเซนส์ที่เหลือในซองสามารถนำมาทาส่วนอื่นๆของร่างกายได้ แต่ไม่ไหวค่ะ มันเหนียวเกินไป แต่แผ่นมาส์คใหญ่ดีมาก สามารถโปะได้จนถึงขอบไรผมบนหน้าผากและเลยลงมาถึงขากรรไกร

ตอนเช้าพอล้างหน้าแล้วก็เห็นชัดเจนเลยค่ะว่าหน้าใสขึ้น ก็โอเคนะ แต่ถ้าเทียบกับมาส์คแบบทิชชูยี่ห้ออื่นๆที่เคยใช้ เช่น pond’s , skinfood ก็เห็นว่าขาวใสขึ้นเหมือนกัน และยังนวดให้เอสเซนส์ซึมลงผิวได้ง่ายมากด้วย รู้สึกสบายหน้ากว่ามาก

คะแนน : 2/5

11 มกราคม 2553

Burt’s Bees ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ อันดับหนึ่งในอเมริกา

Burt’s Bees (เบิร์ตส์ บีส์) เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกามีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทกว่า 150 ชนิด สำหรับการดูแลทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยเลือกใช้ส่วนผสมที่ดีสุดจากธรรมชาติ เช่น ขี้ผึ้ง น้ำมันสกัดหอมระเหยบริสุทธิ์ น้ำมันสกัดจากพฤกษชาติ สมุนไพร ดอกไม้ และแร่ธาตุที่มาจากส่วนผสมทรงประสิทธิภาพซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องคุณสมบัติและความปลอดภัยมาเป็นเวลายาวนาน ปัจจุบันสินค้าของ Burt’s Bees วางจำหน่ายมากกว่า 30,000 ร้านค้า ในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ อังกฤษ ออสเตรเลีย เกาหลี ฯลฯ

Burt's Bees  Beeswax Lip Balm (Tube) 0.15oz, 4.25g

Burt's Bees Beeswax Lip Balm (Tube) 0.15oz, 4.25g

ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของ Burt's Bees ด้วยส่วนผสม 95.29% จากธรรมชาติ ประกอบด้วย ลาโนลิน น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน ผสานคุณค่าจากขี้ผึ้ง ช่วยให้เรียวปากมีสุขภาพดี

ราคา 279 บาท


Burt's Bees  Replenishing Lip Balm 0.15oz, 4.25g

Burt's Bees Replenishing Lip Balm 0.15oz, 4.25g

ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากผลทับทิมซึ่งมีคุณสมบัตินการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูริมฝีปากให้กลับชุ่มชื่น เรียบเนียน และสุขภาพดี

ราคา 279 บาท


Burt's Bees  Foot Care Kit 1pack,

Burt's Bees Foot Care Kit 1pack,

ปรนนิบัติเท้าด้วยตนเองได้ที่บ้าน ด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลเท้าเพื่อเท้าที่เนียนนุ่ม ประกอบด้วย Coconut Foot Creme 123g. ที่อุดมไปด้วยน้ำมันธรรมชาติจากมะพร้าว และหินพูไมซ์สำหรับขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน พร้อมกับถุงเท้าสีเหลืองสดใสสำหรับใส่นอนเพื่อปกป้องเรียวเท้ายามค่ำคืน

ราคา 616 บาท


Burt's Bees  Citrus Facial Scrub 2oz, 57g

Burt's Bees Citrus Facial Scrub 2oz, 57g

สครับขัดหน้าที่มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ 99.96% เพื่อผิวสดใสและเปล่งประกาย อ่อนโยนจนสามารถใช้ได้ทุกวัน

ราคา 483 บาท


Burt's Bees  Orange Essence Facial Cleanser 4.34oz, 123g

Burt's Bees Orange Essence Facial Cleanser 4.34oz, 123g

สารทำความสะอาดจากน้ำมันผลส้ม 100% ให้ผิวหน้าสะอาดโดยไม่แห้งตึง น้ำมันมะกอกและอโลเวร่าช่วยเพิ่มความสดชื่นและชุ่มชื่นให้ผิว

ราคา 616 บาท


Burt's Bees  Natural Remedy Outdoor Survival Kit 1pack,

Burt's Bees Natural Remedy Outdoor Survival Kit 1pack,

ผลิตภัณฑ์ขนาดพกพา ให้คุณสะอาดและสดชื่นได้ทุกที่กับคุณค่าจากธรรมชาติ ประกอบด้วย All-in-One Wash (29.5ml),Hand Salve (8.5g),Healthy Healing Carrot Nutritive Body Lotion (29.5ml),Outdoor Res-Q Lip Balm SPF15 (4.25g),Poison Ivy Soap (22.7g),Res-Q Ointment (8.5g),Rosemary Mint Shampoo Bar (22.7g),Muscle Mend Sore Muscle Balm (0.5g) เหมาะมากสำหรับเป็นการทดลองใช้ค่ะ เพราะคุ้มจริงๆ

ราคา 888 บาท


Warning : เห่อใส่ขนตาปลอมอันตรายถึงตาบอด

nanalady.com สธ.เตือนสาวๆ ที่ฮิตแฟชั่นติดขนตาปลอมเสริมเสน่ห์ใบหน้า ตาโตหวานคม ชี้ถ้าไม่สะอาดจะสะสมเชื้อโรค ทำให้ตาดำอักเสบ เสี่ยงตาบอดได้ แนะก่อนใส่ต้องล้างมือให้สะอาด ไม่ควรใช้ขนตาปลอมร่วมคนอื่น หรือใส่ต่อเนื่องกันนานๆ หากมีอาการแพ้หรืออักเสบต้องปรึกษาจักษุแพทย์ทันที

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.53 น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันกระแสแฟชั่นใส่ขนตาปลอมกำลังฮิตมาแรง เป็นที่นิยมของสาวๆ โดยเฉพาะวัยรุ่น เพื่อเสริมบุคลิก สร้างความมั่นใจ ให้ดูดี มีเสน่ห์ ตากลมโตแบบตุ๊กตา หรือตาคมแบบสาวอินเดีย ทำให้ผู้รักสวยรักงามทั้งชายหญิงฮิตติดขนตาปลอมที่มีลักษณะยาวและงอน เพื่อให้ดวงตาดูโต ขับใบหน้าให้โดดเด่น ยิ่งคนที่มีขนตาน้อยและสั้นก็ยิ่งนำมาติดเพิ่มหลายชั้น บางคนติดเป็นแพหนาเหมือนขนนก บางคนนำขนตาปลอมที่มีลูกปัด คริสตัล เพชร ประดับอยู่มาติด เช่นที่ดารานางแบบใช้กัน

น.พ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า การนำสิ่งแปลกปลอมวัสดุต่างๆ มาติดที่ขนตานับว่าเสี่ยงอันตรายต่อนัยน์ตา เป็นตัวทำลายดวงตาทางอ้อม เนื่องจากอาจทำให้เกิดสิ่งสกปรกมาสะสมบริเวณหนังตา และหากเก็บรักษาขนตาปลอมไม่ถูกวิธี ไม่สะอาด เมื่อนำมาติดที่ขอบตาซึ่งติดกับขนตาจึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ดวงตา อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง อักเสบ มีโอกาสเสี่ยงถึงขั้นตาบอดได้
"จึงอยากเตือนให้ผู้ที่ติดขนตาปลอมอยู่ หรือกำลังจะเริ่มหัดติดขนตาปลอม ให้ระมัดระวัง เนื่องจากขนตาของคนเรา มีความสำคัญอย่างมากต่อดวงตา มีหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับดวงตา เช่น ป้องกันฝุ่นผง ฝุ่นละออง และเหงื่อ ไม่ให้ไหลเข้าสู่ดวงตา" น.พ.ไพจิตร์ กล่าว

ทางด้าน น.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า โดยทั่วไปคนเราจะมีขนตาบนมากกว่าขนตาล่าง โดยขนตาบนมีประมาณ 120 เส้นขนตาข้างล่างมีประมาณ 80 เส้น ที่โคนขนตาแต่ละเส้นจะมีต่อมไขมันและต่อมเหงื่อช่วยผลิตไขมันและน้ำไปหล่อเลี้ยงดวงตา เพื่อเคลือบกระจกตาให้ชุ่มชื้น ทำให้ดวงตาไม่แห้ง หากไม่ทะนุถนอมดวงตา โดยเฉพาะเวลาที่ต้องติดขนตาปลอมและขณะดึงออกกาวที่ติดขนตาอาจจะทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย ยิ่งทำบ่อยครั้งจะยิ่งสร้างความกระทบกระเทือนต่อขนตา ขนตาก็จะหลุดร่วง หรือเปราะบาง ขาดง่าย และไม่แข็งแรง ส่งผลถึงการทำลายดวงตาของตัวเองได้

น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่าขนตาปลอมและกาวติดขนตาที่มีวางจำหน่ายอยู่ขณะนี้มีราคาตั้งแต่ 10 บาทถึง 300 บาท มีทั้งที่ผลิตได้ตามมาตรฐานถูกต้องตามหลักวิชาการ และไม่ได้มาตรฐาน่ขนตาปลอมมีทั้งอ่อนนุ่มไปจนถึงแข็งมาก มีหลากหลายรูปแบบ เช่น เป็นแผงเส้นตรง เส้นสานกัน แบบเป็นช่อ แบบลักษณะเหมือนขนนก และแบบที่นำลูกปัด คริสตัล เพชร มาติดประดับ โดยกาวที่ใช้ติดขนตาปลอมต้องมีคุณภาพดี ผลิตถูกต้องตามหลักวิชาการ มีส่วนประกอบสำคัญที่เหมาะกับการใช้เฉพาะที่ และต้องระบุฉลากชัดเจนว่าใช้กับดวงตาเท่านั้น หากใช้กาวอื่นมาติดอาจเป็นอันตรายได้

น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่ออีกว่าขนตาปลอมที่ไม่สะอาดหรือเก็บรักษาไม่ดี หรือเป็นขนตาปลอมที่ผลิตจากบริษัทที่ไม่ได้มาตรฐาน หากนำมาใช้แล้วหลุดเข้าไปทิ่มตาดำอาจทำให้ตาดำเกิดการติดเชื้อและอักเสบตามมา มีโอกาสเสี่ยงตาบอดได้ และหากกาวติดขนตาปลอมที่ไม่มีคุณภาพเข้าตาก็จะมีปฏิกิริยาต่อดวงตา ทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง ตาอักเสบได้เช่นกัน
"ขอเตือนผู้ที่ชอบติดขนตาปลอม ต้องระวังอย่างมากเรื่องความสะอาด ก่อนใส่ขนตาปลอมต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ทำความสะอาดขนตาปลอมทุกครั้งเมื่อนำมาใช้ซ้ำ ไม่ควรใช้ขนตาปลอมร่วมกับคนอื่น หรือไม่ควรติดขนตาปลอมติดต่อกันนานๆ ควรหยุดพักบ้าง ประการสำคัญหากมีอาการแพ้หรืออักเสบหลังติดขนตาปลอม เช่น เกิดผื่นแดง มีตุ่มหนองใส อักเสบ บวม แสบหรือระคายเคือง ต้องรีบปรึกษาจักษุแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที" น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าว

น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวอีกว่า ขนตาของคนเรามีความสำคัญอย่างมากต่อดวงตา การบำรุงทะนุถนอมขนตาให้แข็งแรง ไม่หลุดร่วง มีหลายวิธี เช่น กินอาหารที่มีกรดโฟลิค ซึ่งมีในตับ ผักใบเขียว ยีสต์ซึ่งมีในขนมปังและนมเปรี้ยว และธาตุสังกะสีซึ่งมีในหอยนางรม ตับ เนื้อ ถั่ว ธัญพืช อาหารทะเล และไข่ เป็นต้น

ข้อมูล หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

8 มกราคม 2553

Review : Clinique Anti-Blemish Solution

หลังจากประสบปัญหาสิวอุดตันที่คางมาพักใหญ่ๆ ไม่ยอมหายไปซะที ก็เริ่มมองหาผู้ช่วยค่ะ จากตอนแรกที่จะซื้อแค่ Oil-Control Cleansing Mask ซึ่งเป็นมาสค์เนื้อเคลย์ แต่คุยกับบีเอไปๆมาๆ ก็ได้มาเกือบครบชุดซะงั้น ขาดแต่ clarifying lotion เพราะแอลกฮอล์เยอะจัด ไม่สามารถใช้ได้ค่ะ ทั้งหมดที่ได้มาก็มี 5 ชิ้น คือ Oil-Control Cleansing Mask , Cleansing Foam, Clearing Moisturizer, Spot Treatment Gel และ Post Blemish Formula

ผลิตภัณฑ์ Anti-Blemish Solution มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วยนะคะ ผู้ที่แพ้แอลกฮอล์ก็ควรจะทดสอบกับผิวก่อน และเนื่องจากใส่แอลกฮอล์นี่เอง ทำให้ผิวหน้าแห้งมากๆค่ะ และก็ทำให้ผิวหยาบขึ้นด้วย (แห้งสุดๆ ขาดความชุ่มชื่นอย่างเห็นได้ชัด) ครีมบำรุงในเซ็ทเดียวกันก็ไม่ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นเท่าไหร่ด้วยค่ะ ส่วนตัวเราไม่ค่อยแฮปปี้กับเซ็ทนี้เท่าไหร่ จะรีวิวไปตามผลที่เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากผลลัพธ์ของคนอื่นๆก็ได้ หากต้องการซื้อมาใช้ แนะนำให้ศึกษาจากรีวิวอื่นๆให้เยอะๆค่อยตัดสินใจนะคะ

Clinique Anti-Blemish Solution Cleansing Foam Clinique Anti-Blemish Oil-Control Cleansing Mask

ขอรีวิวจากลำดับการใช้นะคะ เริ่มจาก Cleansing Foam ปริมาณ 125 ml. เป็นหัวปั๊มที่ปั๊มออกมาเป็นฟองเลย ฟองบางเบามากค่ะ ต้องปั๊ม 3 ทีถึงจะล้างได้สะอาด ก็เลยหมดเร็วมากๆ ล้างออกด้วยน้ำหลายครั้งแต่ก็ยังรู้สึกว่ามีคราบลื่นๆติดผิวอยู่ แต่หน้ากลับแห้งมากๆ ตอนแรกเราใช้ทั้งเช้า-เย็น ซึ่งรู้สึกว่าหน้าแห้งตึงเกินไป ก็เลยเปลี่ยนมาใช้แค่ตอนเย็นเท่านั้น หน้าก็แห้งน้อยลง อ่อ…ตัวนี้ล้าง cleansing oil ได้สะอาดดีนะคะ
คะแนน : 2/5

Oil-Control Cleansing Mask ปริมาณ 100 ml. เนื้อเนียนมากๆ เกลี่ยได้ง่าย ถ้าอยู่ในสภาวะอากาศแห้งก็จะแห้งเร็วมากๆค่ะ แห้งแล้วหน้าตึงสุดๆขยับปากไม่ได้เลย (เดี๋ยวผิวย่น) สามารถใช้ได้ทั่วหน้าหรือเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวก็ได้ค่ะ ตัวนี้ช่วยเรื่องควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดีค่ะ แต่ไม่ทำให้หน้าแห้ง ล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติได้ แต่จะมีคราบมาส์คติดอยู่บ้างตามไรผม ต้องล้างออกให้หมด หรือไม่ก็ใช้สำลีเช็ดออกค่ะ รู้สึกได้ว่าผิวสะอาดดี แต่ไม่ค่อยชัวร์เรื่องมาส์คตกค้างบนใบหน้า เพราะเรารูขุมขนกว้าง กลัวมันจะไปอุดตันโดยที่เรามองไม่เห็น ก็เลยเช็ดด้วยโทนเนอร์หลังจากล้างหน้าเสร็จ หลังจากใช้ผิวหน้าก็เนียนๆดี
คะแนน : 4/5

Clinique Anti-Blemish Clearing Moisturizer Clinique Anti-Blemish Spot Treatment Gel

หลังจากล้างหน้าแล้วจะเช็ดด้วย Clarifying Moisture Lotion เบอร์ 3 ค่ะ ตามด้วย Clearing Moisturizer ปริมาณ 50 ml. เนื้อครีมบางเบา กลิ่นก็เหมือนครีมบำรุงอื่นๆของคลีนิกข์ (ซึ่งกลิ่นจะเหมือนๆกันหมดเลย จนเผลอคิดไปหลายทีว่ามันคือครีมตัวเดียวกัน แต่แค่แปะฉลากต่างกันเพื่อผลทางการตลาดรึเปล่า) ซึมซาบค่อนข้างเร็ว แต่ไม่ได้ช่วยให้หน้าชุ่มชื่นขึ้นมาเท่าไหร่ค่ะ เพราะหลอดนี้ก็เป็นสูตรช่วยควบคุมความมัน และตามคุณสมบัติบอกว่าช่วยลดอาการแห้งและลอกเป็นขุย รวมถึงลดรอยแดงจากสิวด้วย แต่พอใช้ไปประมาณ 1 อาทิตย์ เหมือนว่าครีมตัวนี้ช่วยเร่งให้สิวอุดตันเปลี่ยนเป็นสิวอักเสบค่ะ ตอนแรกเข้าใจว่าแพ้ แต่พออ่านดูรีวิวของคนอื่นๆ ก็เข้าใจว่ามันเป็นอย่างนี้จริงๆ ใช้ต่อไปอีกเป็นเดือน สิวอักเสบหาย ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่สิวอุดตันก็ยังไม่หายไป แถมยังมีรอยแดงจากสิวอักเสบทิ้งไว้อีก เซ็งมากค่ะ เหมือนซื้อมาทำร้ายหน้าตัวเอง –“-
คะแนน : 1/5

Spot Treatment Gel ปริมาณ 15 ml. เป็นเจลแต้มสิวที่ใช้แล้วเห็นผลภายในข้ามคืน แต้มทิ้งไว้ก่อนนอนสิวจะยุบเลยค่ะ แต้มต่อสิวก็จะเป็นก้อนแห้งๆซึ่งจะหลุดออกตอนล้างหน้า แต่ใช้ได้ผลดีกับสิวที่เห็นหัวสิวแล้วนะคะ แต้มแล้วแสบสุดๆ ต้องอดทนนะ ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวเดียวกับที่คลีนิคหมอสิวแต้มให้รึเปล่า เพราะแสบเหมือนกันเลย เพียงแต่ Spot Treatment Gel ไม่ได้ทำให้ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีขาวๆเหมือนยาของหมอ แต่ผิวตรงที่แต้มจะแห้งมากๆและลอกเป็นขุยค่ะ และก็ทิ้งรอยแดงๆไว้ด้วย ซึ่งถ้าเทียบกับ Rojukiss ENCA Ac Drying Pink Powder แล้ว โรจูคิสดูจะเวิร์คกว่าค่ะ เพราะช่วยให้สิวแห้งและเหลือแค่รอยสีชมพูจางๆเท่านั้น
คะแนน : 3/5

Clinique Anti-Blemish Post Blemish Formula เหมือนคลีนิกข์จะรู้ปัญหาของเจลแต้มสิวค่ะ ก็เลยมี Post Blemish Formula ปริมาณ 15 ml. มาให้ใช้หลังจากที่สิวหายแล้วเหลือแต่รอยแดง เป็นปากกาหมุนๆเอาครีมสีขาวออกมา ใช้สะดวกดีค่ะ แต่ครีมไหลออกมาช้าไม่ทันใจ เผลอหมุนไปหลายรอบ ครีมเลยออกมาเยอะเกิน –”- สามารถทาลงบนรอยแดงหรือจุดด่างดำได้ ถ้าทาบนรอยแดงหลังจากสิวหายจะเห็นผลเร็วค่ะ รอยจะจางลงเร็วมาก ปกติถ้าไม่ได้ทาครีมรอยแดงจะเปลี่ยนรอยดำหรือคล้ำขึ้น และกว่าจะหายก็ใช้เวลานานมาก แต่ก็ต้องระวังนะคะ เพราะถ้าสิวยังไม่หายสนิท ทาแล้วจะเป็นสิวขึ้นมาใหม่ค่ะ
คะแนน : 4/5

ผลสรุปของการใช้ก็คือ ไม่ได้ช่วยรักษาสิวอุดตันเหมือนที่คาดหวังไว้ค่ะ แถมได้รอยแดงจากสิวอักเสบเพิ่มมาเป็นของแถมอีก และหน้าก็แห้งมากๆด้วย แต่ถ้าผิวมันมากๆ น่าจะเวิร์คนะคะ เพราะคุมความมันได้ดีจริงๆ ตัวที่ใช้แล้วโอเคและรู้สึกดีก็จะมี  Oil-Control Cleansing Mask, Spot Treatment Gel และ Post Blemish Formula ค่ะ

7 มกราคม 2553

เหตุผลที่สาวๆใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอาย


 www.mornor.com ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต
“ที่ชมใส่คอนแทคเลนส์ไม่ใช่เพราะจะตามกระแสแฟชั่นหรือว่าอะไร เพียงแต่ว่าชมเป็นคนตาดำไม่เท่ากัน แต่พอใส่บิ๊กอายแล้ว ช่วยแก้ข้อบกพร่องนี้ได้ แต่ชมไม่ได้ใส่ตลอดเวลานะ อย่างตอนเล่นละครจะไม่ใส่เลย เพราะการเล่นละครเราต้องสื่ออารมณ์ทางสายตา หรือบางทีเวลาร้องไห้ ถ้าใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอายจะเลื่อน ดังนั้นชมจะใส่เฉพาะเวลาออกงานและถ่ายแฟชั่นเท่านั้น”

www.kooru.com
เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์
“ปกติเบสท์เป็นคนที่ตาดำจะเล็กมาก พอรู้ว่าเมืองไทยมีคอนแทคเลนส์ “บิ๊กอาย” ก็ซื้อมาใส่ทันที ชอบมากเพราะทำให้ตาดำเราดูชัดขึ้น เวลาถ่ายรูปก็มั่นใจมากขึ้น แต่ก็อยากให้เพื่อน ๆ ที่อยากจะใส่บิ๊กอายดูแลสุขภาพตาดี ๆ อย่านอนทั้ง ๆ ที่ยังใส่บิ๊กอายอยู่ เบสท์เคยใส่ตอนนอน เพราะขี้เกียจถอด ตื่นเช้ามาปรากฏว่าเราจะถอดทำความสะอาดแล้วถอดไม่ออก ตามันแห้ง เบสท์กลัวตาจะบอดมาก ๆ ก็พยายามหาวิธีเอาออกให้ได้ จนในที่สุดก็สามารถถอดออกได้ แต่ตาเจ็บมาก อักเสบไปเลย ก็อยากฝากเตือนไปยังทุกคนที่ใส่บิ๊กอายว่าต้องดูแลดวงตาอย่างดี ไม่อย่างนั้นอาจเป็นอันตรายได้ค่ะ”


www.thailadyboyz.net www.siamdara.com

ปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์
“ที่ปอยใส่บิ๊กอาย เป็นเพราะว่าทำให้ตาดูกลมโตและชัดขึ้น ก็เป็นอุปกรณ์เพิ่มความสวยให้กับผู้หญิงดูดีมากขึ้น ปอยคิดว่าแฟชั่นบิ๊กอายคงจะอยู่กับเมืองไทยไปอีกนาน เพราะจริง ๆ บิ๊กอายก็เข้ามาในเมืองไทย 2-3 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้คนก็ยังใส่อยู่”

อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ
“ตอนแรกไม่คิดจะใส่เลย เพราะคิดว่าตาของเราก็ดูโอเคอยู่แล้ว แต่พอเห็นน้องสาวใส่เท่านั้นแหละ เราเลยเห็นว่าเออทำให้คนดูดีขึ้นนะ ดูใส ๆ ตาดำกลมโตดี ก็เลยลองซื้อมาใส่ดูบ้าง ปรากฏว่าติดใจเลย วันไหนไม่ได้ใส่จะรู้สึกขาดความมั่นใจ แต่ก็อยากจะเตือนวัยรุ่นนิดนึงว่าให้เลือกยี่ห้อที่มันปลอดภัย และอย่าใส่ค้างคืน เพราะอาจจะทำให้ตาอักเสบ ได้ ต้องดูแลและรักษาความสะอาดให้ดีค่ะ”

st.mengrai.ac.th
แนนนี่-ภัทรนันท์ ดีรัศมี
“แนนนี่ใส่มาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาเมืองไทยเลย พอใส่แล้วรู้สึกว่าตัวเองดูสดใสแบ๊วขึ้น (หัวเราะ) แนนนี่คิดว่ายังไงกระแสบิ๊กอายก็ไม่มีทางหลุดแน่นอน คงจะอยู่นานเหมือนคอนแทคเลนส์สี ยังไงซะคนก็ต้อง  ใส่อยู่ดี ไม่มีทางเอาต์ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็อยากให้ทุกคนใส่ยี่ห้อที่ปลอดภัยนะ และต้องรักษาความสะอาดให้ดี ไม่อย่างนั้นดวงตาอาจมีปัญหาได้”

ข้อมูล เดลินิวส์

6 มกราคม 2553

Review : The Body Shop Olive Body Scrub

The Body Shop Olive Body Scrub

ไหนๆก็พูดถึง body scrub ของ The Body Shop ไปแล้ว ก็นำเสนอกันต่อค่ะ สำหรับสครับที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเจอมาสำหรับเรา เริ่มจากได้ tester มา พอใช้ก็ติดใจทันที ก็เลยเป็นยี่ห้อเดียวที่ซื้อใช้อยู่เรื่อยๆ

Olive Body Scrub เหมาะกับผิวธรรมดาและผิวแห้ง เนื้อครีมเข้มข้นมากๆเหมือน body butter ผสมกับเม็ดสครับที่ทำจากเปลือกวอลนัทและเม็ดมะกอก ซึ่งปริมาณเม็ดสครับนั้นใส่มาเต็มที่จริงๆ สครับได้สะใจมากๆ เม็ดสครับไม่หยาบเลย แต่ก็ไม่ละเอียดเกินไปจนทำให้ไม่รู้สึกว่าได้ผลัดเซลล์ผิว ส่วนกลิ่นก็เป็นกลิ่นของมะกอก กลิ่นออกแนวธรรมชาติมากๆ ล้างออกแล้วก็มีกลิ่นติดผิวสักพักนึงค่ะ

ใช้สครับผิวหลังจากอาบน้ำทำความสะอาดผิวเสร็จแล้วนะคะ พอสครับเสร็จก็ล้างออกได้เลยโดยไม่ต้องฟอกสบู่ซ้ำ จะรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยว่าผิวสะอาด เนียนลื่นขึ้น และยังชุ่มชื่นมากๆด้วย ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวก็ไม่ต้องทาครีมยังได้ ส่วนใหญ่หน้าหนาวมักจะมีคำแนะนำว่าให้ลดความถี่ในการสครับผิวจากปกติ แต่สำหรับกระปุกนี้เราว่าหายห่วงค่ะ เพราะไม่ระคายผิวและยังให้ความชุ่มชื่นได้ดี

กระปุกขนาด 200 มล. เท่ากับ body butter แต่ใช้ได้นานกว่าค่ะ เพราะสครับแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น จริงๆถ้าอยากให้ผิวดี ผู้ผลิตแนะนำให้ใช้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ตามด้วย Olive Body Butter แต่สาวขี้เกียวอย่างเรา แค่อาทิตย์ละครั้งก็ยังทำได้ไม่สม่ำเสมอเลย –“-

คะแนน : 5/5  must have item ค่ะ

Useful link
ข้อมูลจากผู้ผลิต

Best Beauty Buys 2009 – Make up

ในปีที่ผ่านมามีบิวตี้ไอเท็มอะไรเด็ดๆบ้างที่ได้รับความนิยมจากสาวๆ Instyle.com คัดสรรมาให้เป็นทางเลือกกันค่ะ ศึกษาก่อนซื้อ ช่วยลดความเสี่ยงของอาการไม่ปลื้มและลดโอกาสสิ้นเปลืองเงินทองได้นะจ๊ะ เริ่มต้นจากเมคอัพไอเท็มกันก่อน

Chanel Levres Scintillantes Glossimer 92 Glitter, 0.19oz, 5.5g ลิปกลอสที่สาวๆยกนิ้วให้ ด้วยสีสันที่เป็นธรรมชาติและติดทนนาน แม้แต่สาวๆที่ไม่ชอบทาลิปกลอสเพราะส่วนใหญ่จะเหนียวหนึบยังหลงรักลิปกลอสแท่งนี้ La Mer Lip Balm 9g/0.32oz ลิปบาล์มที่อุดมไปด้วยวิตามินอี สารสกัดจากพืชและคุณค่าจากทะเล ให้เรียวปากชุ่มชื่นได้ทันทีที่ใช้ NARS Lipstick - Blonde Venus ( Satin ) 3.4g/0.12oz ลิปสติกเนื้อแมทท์ที่ติดทนนานโดยไม่ทำให้ริมฝีปากแห้ง และเฉดสีที่หลากหลายถึง 58 เฉดสี เลือกสวยกันได้ไม่มีเบื่อ แถมยังไม่ต้องเติมลิปบ่อยๆอีกด้วย 

Christian Dior 5 Color Designer All In One Artistry Palette - No. 508 Nude Pink Design 4.4g/0.15oz พาเลตแต่งตาที่ให้สาวๆสวยได้ทั้งลุคหวานๆ และลุคคมเข้ม เป็นไอเท็มที่ฮิตมากๆในญี่ปุ่น Lancome Definicils - No. 01 Noir Infini 6.5ml/0.21oz มาสคาร่ากันน้ำที่ให้ขนตายาวและเด้งได้ตลอดวัน แถมยังช่วยให้ขนตาดูหนาขึ้นด้วยนะ ล้างออกได้ง่ายอีก เป็นมาสคาร่าในฝันของสาวๆจริงๆ

NARS Blush Super Orgasm 4030, 0.16oz, 4.5g ไม่ต้องบอก สาวๆก็รู้ดีว่าบลัชออนจาก NARS เป็นบรัชออนที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะให้สีสันเป็นธรรมชาติ ติดทนนาน และมีให้เลือกมากมาย แต่ถ้าต้องการความคุ้มค่า ต้องเป็น NARS Multiple Duo ( For Eyes Cheeks & Lips ) - # Maldives/ Riviera 8g/0.28oz ที่ใช้ได้ทั้งตา แก้ม และปาก พกไว้ตลับเดียวก็สวยได้ทุกสถานการณ์ Laura Mercier Secret Camouflage - # SC2 ( For Fair to Light Skin Tones ) 7.7g/0.26oz คอนซีลเลอร์ที่ปกปิดได้ยอดเยี่ยม สามารถยึดเกาะกับริ้วรอยจุดด่างดำที่ต้องการปกปิดได้เป็นอย่างดี เมคอัพอาร์ตทิสแนะนำว่า ให้ลองผสม 2 สีเข้าด้วยกัน ซึ่งจะใช้ได้กับทุกสีผิว โดยไม่ต้องลงทุนซื้อตลับใหม่

Laura Mercier Oil Free Foundation - Warm Ivory ( For Fair to Light Skin Tones ) 29ml/1oz รองพื้นควบคุมความมันที่ไม่ทำให้หน้าแห้งหรือดูหยาบเหมือนรองพื้นควบคุมความมันทั่วไป และยังช่วยอำพรางรูขุมขนได้ด้วยนะ Smashbox Starlight Whitening Photo Finish Foundation Primer 30ml/1oz primer เนื้อซิลิโคนที่ช่วยเติมเต็มร่องรอยเล็กๆได้เนียนสุดๆ ช่วยให้แต่งหน้าได้ง่ายและเร็วขึ้น ให้เมคอัพติดทนนานเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า..ว้าว!!! ส่วนสาวผิวสุขภาพดี หน้าใสไร้ริ้วรอย เพียงแค่ใช้ Laura Mercier Tinted Moisturizer SPF 20 - Nude 40ml/1.5oz ก็ช่วยเพิ่มประกายสดใสให้ผิวได้อีก โดยมองไม่ออกเลยว่าแต่งหน้า

ข้อมูล Instyle.com

Related Posts with Thumbnails

จองสปาราคาพิเศษที่สุโขสปา

Join My Community at MyBloglog!