NARS Cosmetics Fall Collection 2010 Online Exclusive: Super Restorative Age-Defying Set - a $207 value for $132!

31 ตุลาคม 2552

Review : The Body Shop Shea Body Butter

The Body Shop Shea Body Butter ผลิตภัณฑ์ของ The Body Shop ใช้ส่วนผสมจากพืชพรรณธรรมชาติภายใต้โครงการ Communities Trade ซึ่งทาง The Body Shop จะรับซื้อวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตเครื่องสำอางจากเกษตรกรผู้ผลิตในราคาที่ยุติธรรม โดยจะเน้นวัตถุดิบที่มาจากเกษตรกรกลุ่มย่อย ชนเผ่า และชาวท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตพืชชนิดนั้นๆโดยเฉพาะ ซึ่ง The Body Shop Shea Body Butter มีส่วนผสมหลักๆที่ให้ความชุ่มชื่นจาก shea butter และ cocoa butter  ที่มาจากกาน่า อุดมไปด้วยวิตามินเอและอี ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและนุ่มนวล

The Body Shop นั้นใช้กลยุทธ์ของ Communities Trade มาทำให้สาวๆรู้สึกดีขึ้นที่ได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้า เพราะนอกจากวัตถุดิบจะมาจากธรรมชาติ ไม่ใช้สัตว์ในการทดลอง ก็ยังได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

มาเข้าเรื่องของการรีวิวผลิตภัณฑ์บิวตี้สำหรับหน้าหนาว หมวดครีมบำรุงผิว

The Body Shop Shea Body Butter เหมาะสำหรับผิวแห้งค่ะ เราจะใช้ในหน้าหนาวที่อากาศหนาวจัดๆ มีแต่กระปุกนี้ที่เอาอยู่ ด้วยเนื้อครีมที่เรียกได้ว่า เหมือนกับเนยจริงๆ ซึ่ง body butter กลิ่นอื่นๆเนื้อจะไม่เข้มข้นขนาดนี้ (เราคิดว่า shea body butter น่าจะเป็นครีมที่เข้มข้นที่สุดของ The Body Shop เพราะ BA นำเสนอว่าตัวนี้ดีที่สุดสำหรับผิวที่แห้งมากๆ) ตอนทาจะลำบากหน่อยค่ะ เพราะข้นมาก เคยลองวอร์มครีมที่มือก่อนแล้วทาก็ช่วยให้ทาได้ง่ายขึ้น แต่ครีมส่วนใหญ่จะซึมลงฝ่ามือไปซะก่อน ทำให้ยิ่งเปลืองไปกันใหญ่ค่ะ –“- ก็เลยปาดที่ผิวแล้วทา ซึ่งก็ใช้เวลามากกว่าครีมอื่นๆที่เคยใช้ หลังจากทาจะรู้สึกว่าผิวเหมือนได้ดื่มน้ำ แต่ค่อนข้างจะเหนียวเหนอะหนะ ต้องรอสักพักใหญ่ๆถึงจะซึมลงผิวและหายเหนียวตัว

กลิ่นหอมคล้ายๆขนม ติดผิวนาน ทำให้ได้กลิ่นจางๆระหว่างวัน ประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื่นของผิวนั้นอยู่ในระดับยอดเยี่ยมค่ะ ทาตอนเช้ากลับมาอาบน้ำตอนเย็นก็ยังรู้สึกได้ว่ามีครีมอยู่ที่ผิว ใช้อย่างต่อเนื่องผิวก็นุ่มนวลขึ้นจริงๆค่ะ แต่พอเข้าหน้าร้อนก็ต้องเลิกใช้ เพราะทนความเหนียวไม่ไหวค่ะ เวลาเหงื่อออก ครีมที่อยู่ที่ผิวจะละลายออกมาลื่นๆ ไม่สบายผิวสุดๆเลย คอนเฟิร์มว่าให้ใช้หน้าหนาวที่ไม่สามารถพึ่งพาครีมตัวไหนได้แล้ว กระปุกนี้ราคาก็ค่อนข้างสูงนะคะถ้าเปรียบเทียบกับครีมบำรุงผิวอื่นๆ แต่ด้วยประสิทธิภาพก็ต้องยอมค่ะ ถ้าเทียบกับกระปุกก่อนหน้าที่รีวิวไป ลงทุนกับ The Body Shop Shea Butter ถือว่าคุ้มค่าค่ะ

Useful Link
ข้อมูลจากผู้ผลิต

28 ตุลาคม 2552

Review : L’Occitane Almond Milk Concentrate

เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้วนะคะ สาวๆต้องเตรียมดูแลผิวให้ชุ่มชื่นเป็นพิเศษ เพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน และแลดูไม่สดใส ในช่วงนี้เราจึงขอนำเสนอการรีวิวผลิตภัณฑ์บิวตี้สำหรับหน้าหนาวค่ะ ถึงผิวหน้าเราจะมีสภาพผิวเป็นผิวผสม แต่พอเข้าหน้าหนาวทีไร ผิวหน้าจะแห้งและลอกเป็นขุยๆ ต้องใช้ครีมบำรุงสำหรับผิวแห้ง ส่วนผิวกายยิ่งไปกันใหญ่ค่ะ ปกติผิวกายจะค่อนข้าแห้ง ต้องทาครีมบำรุงหลังอาบน้ำทุกครั้ง หน้าหนาวถ้าครีมเข้มข้นไม่พอ ผิวจะเป็นผื่นแดง คัน และตกสะเก็ด แอบน่าเกลียดเล็กน้อยนะ แต่พอได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะรีวิวต่อไปเรื่อยๆนี้ ไม่พบปัญหาเหล่านี้อีกเลยค่ะ

ขอเริ่มจากหมวกแรกกันก่อน… ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย

 L’Occitane Almond Milk Concentrate เริ่มจากชิ้นแรก L’Occitane Almond Milk Concentrate ครีมบำรุงผิวเนื้อนุ่มที่เข้มข้นด้วย almond oil และ almond milk ผสานคุณค่าของ silsium และ almond protein ที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับคอลลาเจน จะช่วยฟื้นฟูและมอบความตึงกระชับให้ผิว กระปุกใหญ่มากมายค่ะ 200 ml. แต่ก็ใช้เปลืองนะ เพราะเนื้อครีมไม่ค่อยเข้มข้น แต่ก็ซึมลงผิวได้ค่อนข้างเร็ว ไม่เหนียวเหนะหนะเลย รู้สึกได้ทันทีว่าผิวชุ่มชื่นขึ้นมาก ใช้อย่างต่อเนื่องผิวจะนุ่มขึ้นด้วยนะคะ กลิ่นของครีมตัวนี้จะออกแนวหอมสดชื่นคล้ายๆพวกสมุนไพร ทาก่อนนอน กลิ่นก็จะช่วยให้ผ่อนคลายได้ดีค่ะ แต่ตอนเช้า สำหรับสาวๆที่ชอบฉีดน้ำหอม กลิ่นอาจจะตีกันได้นะคะ เพราะกลิ่นของ Almond Milk Concentrate  ค่อนข้างติดทนค่ะ และก็ให้ความชุ่มชื่นได้ยาวนานด้วย ยืนยันได้จากทาตอนเช้า อาบน้ำตอนเย็นก็ยังรู้สึกว่าผิวลื่นๆอยู่

สำหรับหน้าหนาว Almond Milk Concentrate จะเหมาะกับผิวมากๆค่ะ หน้าร้อนก็ใช้ทาได้นะคะ ถ้าต้องทำงานหรืออยู่ในห้องแอร์ตลอด จะช่วยให้ผิวไม่ขาดความชุ่มชื่นได้ดี แต่ถ้าต้องเผชิญกับอากาศร้อนๆ เราว่าพอเหงื่อออกอาจจะไม่ค่อยสบายตัวค่ะ บวกกับกลิ่นที่หอมออกแนวสมุนไพร แต่ไม่ใช่กลิ่นเย็นๆนะคะ ออกแนวอบอุ่นซะมากกว่า อาจจะทำให้ยิ่งรู้สึกร้อนหรืออึดอัดได้

กระปุกเป็นแก้วที่หนาและดีไซน์ได้เรียบเก๋ดีค่ะ ใช้ครีมหมดแล้วก็เก็บกระปุกไว้ใส่ของกระจุกกระจิกได้ต่อ

Useful Link
ข้อมูลจากผู้ผลิต

23 ตุลาคม 2552

ใช้ครีมลดริ้วรอย กลับเร่งผิวให้แก่ก่อนวัย

คงไม่มีสาวๆคนไหนอยากให้ “ริ้วรอย” มาเยือนบนใบหน้าแน่ๆ ทำให้เดี๋ยวนี้สาวๆต่างขวนขวายหาครีมลดริ้วรอย หรือ Anti-aging มาบำรุงผิวกันตั้งแต่อายุยังไม่เข้าข่ายที่จะเกิดริ้วรอยได้เลยด้วยซ้ำไป

แต่โดยปกติแล้วครีมในกลุ่ม Anti-aging จะเหมาะสำหรับผู้หญิงอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากผิวจะเริ่มขาดความชุ่มชื่น ทำให้ประกายความเปล่งปลั่งดูลดลง ผิวจะไม่สดใสเท่าเมื่อก่อน จึงต้องเริ่มเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยและกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิว เพราะผิวจะเริ่มสูญเสียความกระชับและยืดหยุ่นจากคอลลาเจนและอีลาสตินที่ลดลง โดยเฉพาะเวลาที่แสดงอารมณ์บนใบหน้า อย่างเช่น ขมวดคิ้ว (สาวๆรู้แล้วก็อย่าเครียดจนคิ้วผูกโบบ่อยๆนะคะ เดี๋ยวหน้าย่นนะ) ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยแห่งวัยนั่นเองค่ะ

ดร.นิค โลว์ แพทย์ผิวหนังชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ได้ชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจะมีส่วนผสมของ Retinoids, AHAs, BHAs ซึ่งการทำงานของสารเหล่านี้จะทำลายผิวชั้นบน แล้วกระตุ้นการเกิดผิวใหม่โดยเร่งการเปลี่ยนเซลล์ผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนของผิว ดังนั้น เมื่อสาวๆวัย 20 ต้นๆนำมาใช้กับผิวก็ย่อมไม่เหมาะแน่นอนค่ะ เพราะสภาพผิวของสาววัย 20 เป็นช่วงวัยที่ผิวยังแข็งแรง เปล่งปลั่งและสดใส ยังไม่มีริ้วรอย (ยกเว้นว่าคุณเป็นสาวปาร์ตี้ที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า นอนน้อย นี่จะเป็นตัวการเร่งให้ผิวแก่ก่อนวัยได้ค่ะ)

การที่สาววัย 20 ต้นๆนำครีมลดริ้วรอยมาใช้กับผิวนั้น จะเป็นการเร่งให้ผิวที่ดีอยู่แล้วเปลี่ยนสภาพโดยการผลัดผิว และทำให้การอุ้มน้ำของผิวตามธรรมชาติเสื่อมลง เนื่องจากผิวบริเวณแก้มจะมีความบอบบางกว่าผิวที่อายุมากกว่า จึงมีโอกาสง่ายมากค่ะที่จะเกิดการแพ้เป็นรอยแดง ผื่นคัน เนื่องจากผิวจะเกิดอาการต่อต้านต่อสารลดริ้วรอยที่กล่าวไว้ข้างต้น นอกจากนี้การใช้ Retinoids และ AHAs มากๆจะส่งผลให้ผิวไวต่อแดด และอาจเกิดฝ้า กระ ผิวไม่เรียบได้ด้วยนะคะ

สาวๆที่ยังไม่ถึงเวลาใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจึงควรใช้เพียงแค่สารกันแดดเพื่อช่วยป้องกันแสงแดดอันเป็นสาเหตุของริ้วรอยเท่านั้นก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยในวัยที่ไม่เหมาะสมนั้น อาจเป็นการเร่งให้ผิวแก่ก่อนวัยแทน

อ้างอิง Sabai-arom, Kapook.com

22 ตุลาคม 2552

ชุดดูแลผิวพื้นฐานจาก Kose

KOSE Sekkisei Skincare Trial Set 1pack,    KOSE Sekkisei Skincare Trial Set 1pack,

ประกอบด้วย
(1) Sekkisei Cleansing Cream (25g)
ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างลึกล้ำด้วยสมุนไพร 4 ชนิด ซึ่งประกอบด้วย Coix Seed Extract, Angelica Extract, Melothria Extract และ Licorice Extract Derivative และยังช่วยบำรุงผิวให้ขาวใส ชุ่มชื่นอีกด้วย
(2) Sekkisei White Milky Wash (20ml)
ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้น้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติหมดไป
(3) Medicated Sekkisei Emulsion (33 ml)
ใช้ทาทั่วใบหน้าหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบำรุงขั้นต่อไป ช่วยปกป้องน้ำหล่อเลี้ยงผิว ให้ผิวชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ พร้อมให้ความขาวใส โดยไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ
(4) Lotion Mask (4pcs x 2pack)
ควรใช้คู่กับ Emulsion โดยนำแผ่นมาส์ก แช่ใน Emulsion  2-5 นาทีเพื่อให้แผ่นคลายตัวออก จากนั้นนำแผ่นมาส์มาวางบนผิวหน้า ทิ้งไว้ 15-30 นาที  แล้วลอกออก ผิวหน้าจะขาวใสขึ้นทันทีในครั้งแรกที่ใช้ และนุ่มชุ่มชื่นอย่างเห็นได้ชัด

ราคา 690 บาท (USD 21.00) 

KOSE Seikisho Skincare Trial Pack 1pack,

 KOSE Seikisho Skincare Trial Pack 1pack,

ประกอบด้วย
(1) Seikisho Pure Brightener (25g)
เจลนวดหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้ผิวขาวกระจ่างใส ขณะนวดจะรู้สึกอุ่น
(2) Seikisho Perfect Cleansing Oil (33ml)
ออยล์ล้างหน้าสูตรพิเศษสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันโดยเฉพาะ ช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดแม้สูตรกันน้ำ และขจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าโดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น

ราคา 300 บาท (USD 9.00)

KOSE Junkisui Daily Skincare Set 1set,

 KOSE Junkisui Daily Skincare Set 1set,

ชุดผลิตภัณฑ์ KOSE JUNKISUI เป็นชุดดูแลผิวพื้นฐานสำหรับผู้มีปัญหาสิว ด้วยน้ำสมุนไพรจะช่วยรักษาความชุ่มชื่นให้ผิวชั้นใน และตัวยาจะช่วยรักษาอาการอักเสบของสิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้
ประกอบด้วย
(1) Medicated Junkisui Washing Cream (60g)
โฟมทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนออกไปได้หมดอย่างหมดจด ด้วยคุณค่าจากน้ำสมุนไพร ช่วยป้องกันปัญหาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกลิ่นหอมสมุนไพรเย็นสดชื่น
(2) Junkisui Moisturizer (33ml)
ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นไว้กับผิวได้ยาวนาน ซึมซาบลงผิวได้อย่างง่ายดาย แม้ผิวที่หยาบแห้งหรือขรุขระแข็งกระด้าง
(3) Junkisui Refreshing Lotion (33ml)
มอบความชุ่มชื่นและรักษาอาการอักเสบ รอยแดงบนผิวหน้า สามารถหยดใส่สำลีแล้วเช็ดหน้าหรือใช้หยอดบนมือแล้วตบเบาๆให้ซึมสู่ผิวหน้า

คุณสมบัติต่างๆของส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ชุดนี้
- Salysilic Acid ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย
- Dipotassium Glycyrrhizate ต่อต้านการอักเสบของสิว
- สารสกัดจาก Moutan Bark  , รากดอกพีโอนี่, รากใบ Fennel ให้ความชุ่มชื้น
- สารสกัดจาก Japanese Coptis ช่วยควบคุมและแยกน้ำมันส่วนเกิน

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจำหน่ายโดย COSME-DE.COM กับบริการใหม่! จัดส่งฟรีทั่วโลกทุกชิ้น

 พิเศษ! ช้อปครบ USD 50.00 รับฟรีทันที The Face Shop Hyaluronic Acid Mask

20 ตุลาคม 2552

เช็คสไตล์ชุดเดรสที่จะอินในหนาวนี้

จากคอลเลคชั่น Fall/Winter 2009-2010 ของดีไซน์เนอร์ดังๆ ก็พอจะสรุปเทรนด์ของเดรสที่จะมาแรงในหนาวนี้ได้ว่า สีหลักๆของเดรสจะเป็น สีดำ และ สีน้ำตาล เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่นัก ทำให้ดีไซน์เนอร์ทั้งหลายปรับเปลี่ยนแนวคิด หันมาเลือกใช้วัตถุดิบที่สามารถใช้งานได้จริงและคุ้มค่ากับผู้บริโภคนั่นเองค่ะ

และดีไซน์ที่โดดเด่นของเดรสในฤดูกาลนี้ ก็คือ เดรสไหล่เฉียง ซึ่งยังคงอินอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี และเดรสเกาะอก

Ralph Lauren   Donna Karan

แต่แฟชั่นก็ไม่อาจขาดสีสันไปได้ค่ะ เดรสสีสันสดใส หรือที่เรียกกันว่า neon dress ด้วยเนื้อผ้าที่มันวาวเปล่งประกายยามต้องแสง การหยิบเดรสสีสันสดใสแบบนี้มาสวมใส่ จะช่วยให้ลืมความทุกข์กังวลและช่วยสร้างความสนุกสนานให้เกิดขึ้นได้แน่ๆค่ะ เหมาะกับงานปาร์ตี้จริงๆเลย

Emolio Pucci Zac Posen

เดรสที่เป็นสีเดียวกันทั้งชุดไม่ว่าจะเป็นโทนสีเข้มหรือสีสว่างสดใส บางทีก็ทำให้น่าเบื่อได้เหมือนกันนะคะ ดีไซน์เนอร์เลยเพิ่มลูกเล่นเหล่านี้ขึ้นมา ดูแล้วก็ช่วยให้สดชื่นขึ้นมาได้ทันทีเลยค่ะ

Oscar de La Renta Oscar de La Renta

Little Black Dress นอกจากจะเซฟสุดๆสำหรับออกงานแล้ว ไม่ว่าซีซันไหนๆ เดรสสั้นสีดำก็ยังมาแรงเสมอ และสำหรับ Fall/Winter 2009-2010 ยิ่งมาแรงเข้าไปใหญ่ค่ะ สาวๆอุ่นใจได้เลย ไม่ต้องวิ่งหาเดรสชุดใหม่ให้เหนื่อย แถมยังสบายกระเป๋าอีกต่างหาก

Ralph Lauren Blumarine

เดรสเรียบๆ ที่ไม่มีลูกเล่นการตกแต่งอะไรเลย แต่คัตติ้งเนี้ยบและใช้สีได้ดี ดูแล้วอาจจะนำมาใช้ได้ยากซักหน่อยนะคะ เพราะจะดูจืดชืดมากๆ อาจจะต้องพึ่ง accessories เก๋ๆสักหน่อย อย่างเช่น สร้อยคอเส้นใหญ่ กำไล และคลัชท์สวยๆซักใบหนึ่ง แต่ข้อดีของเดรสแบบนี้ก็คือ ทำให้เราสามารถ mix & match กับ accessories ที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวชุดจะเด่นเกิน

 Yves Sant Larant Dries Van Noten

Maxi dress จะมาแรงในหนาวนี้ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากเซเลบผู้หลงใหลใน maxi dress อย่างเช่น Angelina Jolie, Nicloe Ricchi , Paris Hilton และอีกหลายๆคน ซึ่งเรามักจะเห็นพวกเธอใส่ maxi dress ออกงานพรมแดงอยู่เสมอๆ

Valentino Oscar de La Renta

แม้ว่าเดรสยาวกรอมเท้าอย่าง maxi dress จะอินสุดๆ แต่สาวตัวเล็กไม่ต้องเศร้าไปค่ะ เพราะเดรสสั้นแบบ super short ก็มาแรงสุดๆเหมือนกันนะ

Emolio Pucci Blumarine

ข้อมูลและภาพประกอบ MillionlooksStyle.com

19 ตุลาคม 2552

Review : Rojukiss ENCA Ac Drying Pink Powder

จากสรรพคุณของ Rojukiss ENCA Ac Drying Pink Powder ถ้าใครได้ทราบ ก็คงคิดในใจว่า..มหัศจรรย์สุดๆ สิวยุบภายในข้ามคืนและไม่ทิ้งรอยแดงและรอยแผลเป็นให้กวนใจ

หลังจากทดสอบกับตัวเอง ใช้ได้ผลดีกับสิวที่เป็นหัวหนอง ส่วนสิวที่บวมๆแดงๆไม่เห็นหัวสิวโผล่ออกมานั้น ไม่มีผลใดๆค่ะ และสิวอุดตันเม็ดเล็กๆก็ไม่เห็นผลใดๆเช่นกัน

วิธีใช้คือให้ตั้งขวดเล็กๆที่มีปริมาณแค่ 15 ml. นี้ทิ้งไว้จนตกตะกอนสีชมพูและเห็นน้ำใสๆอยู่ชั้นบน  ใช้คัตตอนบัดจุ่มลงไปในเนื้อตะกอนสีชมพู เอามาแต้มที่หัวสิว แล้วนอนโดยไม่ต้องล้างออก… แต้มปุ๊บตัวยาจะค่อยๆแห้งเกาะกับผิวค่ะ ดูๆไปเหมือนเอาคาลาไมล์มาแต้มสิวยังไงยังงั้น อิอิ ^^ กลิ่นจะคล้ายๆกับยาแต้มสิวพวก clinda m แต่ฉุนกว่า และรู้สึกแสบๆคันๆนิดหน่อยด้วย แต่แป๊บเดียวก็หายค่ะ จะเป็นเฉพาะตอนที่ยายังไม่แห้ง

ตื่นมาตอนเช้า สิวแห้งดีค่ะ ไม่อักเสบบวมเหมือนก่อนแต้ม  หัวสิวจะแห้งเป็นก้อนแข็งๆ พอล้างหน้าแล้วเช็ดโทนเนอร์ก็หลุดออกมาได้ค่ะ แต่….มันไม่ต่างกับการบีบสิวเลย เพราะเลือดไหลด้วยแหละ เราก็เลยลองแต้มดูอีก พอตื่นเช้ามาอีกวัน ไม่เหลือร่องรอยที่เหมือนการบีบสิวเลยค่ะ แผลหายไปเลย เหลือแต่รอยสีชมพูจางๆไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งถ้าเทียบกับการรอให้แผลหายเองซึ่งใช้เวลาและทิ้งรอยดำไว้ด้วย การแต้ม ENCA Ac Drying Pink Powder ก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้เราได้จริงๆค่ะ  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผลแบบที่เห็นในโฆษณา แต่รอยสีชมพูจางๆนี้ก็สามารถกลบได้ด้วย BB cream หรือรองพื้น ดีกว่าจะต้องใช้กลบบนสิวที่กำลังอักเสบ ซึ่งยิ่งจะทำให้สิวจะหายช้ามากขึ้น รอยสีชมพูจางๆนี้จะไม่เปลี่ยนเป็นรอยดำด้วยนะคะ 

มีสิวอักเสบให้ทดสอบเม็ดเดียวค่ะ –“- ส่วนใหญ่เราจะมีปัญหาสิวอุดตันซะมากกว่า ซึ่งอย่างที่บอกไปว่า ENCA Ac Drying Pink Powder ใช้ได้ผลดีกับสิวหัวหนอง

คะแนน : 5/5 ให้เต็มไปเลยค่ะ เพราะตั้งแต่ใช้ยาแต้มสิวมาเนี่ย ENCA เวิร์คที่สุด สิวแห้งยุบเร็วจริงๆ

17 ตุลาคม 2552

Review : Skinfood Lettuce&Cucumber Toner

วิธีการใช้ Skinfood Lettuce&Cucumber Toner ที่ดีที่สุคคือ ใช้มือค่ะ เนื่องจากเนื้อโทนเนอร์ไม่ได้เป็นน้ำใสๆเหมือนโทนเนอร์อื่นๆ แต่เป็นเนื้อเจล ทำให้การเทลงบนฝ่ามือแล้วลูบให้ทั่วหน้านั้นดีกว่าการหยดลงบนสำลีแน่นอน เพราะถ้าหยดลงสำลี เปลืองแน่ๆค่ะ สำลีจะดูดเนื้อโทนเนอร์ไว้หมดจนทำให้เวลาเช็ดหน้าแล้วไม่รู้สึกว่ามีโทนเนอร์เลย ของแถมจากการหยดโทนเนอร์ลงบนมือยังช่วยทำให้ได้บำรุงมือจากโทนเนอร์ที่เหลือติดมือไปด้วยนะคะ อ่อ…ขวดนี้ไม่มีแอลกฮอล์ค่ะ

กลิ่นหอมอ่อนๆ ทาแรกๆจะเหนอะๆหน้าหน่อยค่ะ เพราะว่าเป็นเจล ต้องทาให้ซึมลงผิวจนหมดแล้วหน้าจะนุ่มมาก อันนี้ต้องอาศัยความใจเย็นนะคะ เพราะกว่าจะซึมลงผิวหมดก็ใช้เวลาเหมือนกัน ไม่เหมือนโทนเนอร์แบบน้ำที่เช็ดแป๊บเดียว แต่ข้อดีก็คือ ทำให้ได้บำรุงผิวหน้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นตอนก่อนจะลงครีมบำรุงผิวในขั้นต่อไป และเมื่อทา Skinfood Lettuce&Cucumber Water Jelly Essense จะซึมลงผิวได้เร็วมากค่ะ

ไลน์ Lettuce&Cucumber เหมาะกับสาวผิวผสมและผิวมันค่ะ เพราะทาแล้วผิวชุ่มชื่นขึ้นมาทันที ไม่ทำให้หน้ามัน ใช้ไปซักระยะหนึ่งก็รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้นมาด้วย ถ้าเอาไปแช่ตู้เย็นจะสดชื่นสุดๆค่ะ

ตอนที่เราใช้แรกๆก็รู้สึกแปลกๆกับเนื้อเจลแบบนี้ค่ะ จนเผลอคิดไปว่าเค้าติดสติกเกอร์ผิดขวดรึเปล่า จริงๆแล้วมันคือ essense รึเปล่านะ 555+  ปกติจะชินกับโทนเนอร์แบบน้ำ แต่พอใช้ไปเรื่อยๆก็รู้สึกดีขึ้นมาค่ะ ตอนที่ซึมลงผิวจนหมดแล้วทำให้หน้านุ่มนี่แหละ

แพคเกจออกแบบมาเป็นขวดฝาเกลียว ซึ่งถ้าทำเป็นหัวปั๊มน่าจะใช้สะดวกกว่านี้เยอะเลยค่ะ

คะแนน : 4/5

15 ตุลาคม 2552

ไม่อยากเสี่ยงกับมะเร็งเต้านม???

image form apexmagneticadvertising.com ในเดือนตุลาคมของทุกปีจะมีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกันดีกับสัญลักษณ์ ริบบิ้นสีชมพู ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์ต่อต้านมะเร็งเต้านมนั่นเองค่ะ วันนี้เลยอยากให้สาวๆได้ทำความรู้จักกับมะเร็งเต้านมให้มากขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย จะได้หาทางป้องกันตนเองจากสาเหตุของการมะเร็งเต้านมได้ค่ะ

มะเร็งเต้านมนั้นเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงชาวอเมริกัน ถึง 1 ใน 8 สำหรับประเทศไทยมะเร็งเต้านมพบมากเป็นอันดับสอง รองจากมะเร็งปากมดลูก และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความเจริญในแบบตะวันตก โดยเฉพาะผู้หญิงในเขตเมืองใหญ่จะพบว่ามีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูงถึง 80 คนต่อประชากรแสนคน

บางคนอาจจะคิดว่าสาเหตุหลักของมะเร็งเต้านมเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่จริงๆแล้วโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้นมีเพียง 30% เท่านั้น สาเหตุส่วนใหญ่จึงมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานั่นเองค่ะ และเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม สาวๆควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังนี้ค่ะ

  • จำกัดการดื่ม การงดดื่มเป็นเรื่องที่สมควรทำที่สุดค่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดไหน จะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มผสมแอลกฮอล์ ก็มีผลต่อการเกิดมะเร็งเต้านมไม่แตกต่างกัน หากไม่สามารถอดใจได้ การลดปริมาณการดื่มลงจะช่วยได้ค่ะ
  • ควบคุมน้ำหนัก ความอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของหลายๆโรค รวมถึงมะเร็งเต้านมเช่นกันค่ะ  โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือนจะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร้งเต้านมได้สูงถึง 1.5 – 2 เท่า สาวๆจึงควรดูแลรูปร่างให้สมส่วนเหมาะสมกับวัย ตั้งแต่วันนี้นะคะ
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากจะช่วยรักษารูปร่างแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมและโรคร้ายอื่นๆได้อีกเพียบค่ะ
    การออกกำลังกายให้ได้ผลนั้นต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที สำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลังกายใหม่ๆ เวลา 30 นาทีอาจจะรู้สึกเหนื่อยเกินไปจนไม่อยากจะออกกำลังกายต่อ แนะนำให้เริ่มจากการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมเกินไปนักในระยะเวลาที่สั้นๆ แล้วค่อยๆเพิ่มเวลาขึ้นในครั้งต่อๆไป เพื่อให้ร่างกายค่อยๆปรับตัวให้ชิน
    ประเภทของการออกกำลังกายที่แนะนำจะเป็น เดิน จ๊อกกิ้ง หรือแอโรบิค เพราะจะช่วยเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรงขึ้นค่ะ ป้องกันความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนเมื่ออายุมากขึ้นได้ด้วยนะ
  • งดอาหารไขมันสูง แม้ว่าผลการวิจัยจะระบุว่าการกินอาหารไขมันต่ำ (low fat) ช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าลองพิจารณาดูจะพบว่า การงดอาหารไขมันสูงเป็นการลดความเสี่ยงของโรคอื่นๆ อย่างเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขมันในเส้นเลือด และหากเราสามารถควบคุมน้ำหนักได้ ก็จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้อย่างแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะการงดไขมันจำพวกไขมันอิ่มตัว (saturated fat) และควบคุมการบริโภคไขมันไม่ให้เกิน 35% ของพลังงานที่เราต้องการในแต่ละวัน

เริ่มกันตั้งแต่วันนี้นะคะ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัยจากโรคร้าย ^^

ข้อมูล Mayo Clinic,  Blinging Beauty

14 ตุลาคม 2552

Review : FANCL Mild Cleansing Oil

FANCL Mild Cleansing Oil ออยล์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง เพียงนวดเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำ เนื้อออยล์จะเปลี่ยนเป็นน้ำนม สามารถใช้ได้ทั้งขณะหน้าแห้งและเปียกน้ำ เนื่องจากคุณสมบัติของออยล์ที่เป็น Cushion Oil จึงช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างผิวหน้ากับนิ้วมือ ช่วยลดปัญหาริ้วรอยก่อนวัย มีส่วนผสมของชาเขียวที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ และด้วย pH Balance ที่ใกล้เคียงกับชั้นผิว ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อผิว

คุณสมบัติโดดเด่นของ FANCL Mild Cleansing Oil ขวดนี้คือ ไม่ผสมสารกันเสีย สารฆ่าเชื้อ มิเนรัลออยล์ หรือ ปิโตรเลียมเซอร์แฟคแทนต์ จึงอ่อนโยนและปลอดภัยกับผิวหน้า สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบาง

ออยล์ตัวนี้เราใช้มา 4 ขวดแล้วค่ะ และไม่เคยนอกใจไปใช้ cleansing ตัวอื่นๆอีกเลย เพราะว่าล้างสะอาดสุดๆ นวดนานๆหน่อยก็ช่วยให้สิวเสี้ยน สิวอุดตันหลุดออกมาด้วย

ที่สำคัญ...ผิวเราแพ้ง่ายมากๆ แต่สำหรับออยล์ตัวนี้ไม่แพ้เลย (แต่บางคนก็แพ้นะ) แต่มีข้อเสียจิ๊ดนึงตรงที่ ล้างมาสคาร่ากันน้ำไม่ค่อยสะอาด ต้องพึ่งพา eye make up remover อยู่ดี ส่วนเมคอัพและครีมกันแดด ทำความสะอาดได้อยู่หมัด และเนื่องจากปราศจากสารกันบูด ทำให้อายุสั้นมาก เพียงแค่ 4 เดือนหลังจากเปิดใช้เท่านั้นเอง แต่ก็มีถึง 2 ขนาดให้เลือกใช้ตามความสะดวก คือ 60 มล. และ 120 มล.

สำหรับผู้ที่ใช้ออยล์ล้างหน้าอื่นๆแล้วเกิดอาการ แพ้ สิวขึ้น แนะนำให้ลองใช้ตัวนี้ค่ะ โดยอาจจะซื้อขนาดทดลองมาใช้ดูก่อน

ข้อแนะนำสำหรับการใช้ออยล์ล้างหน้าก็คือ ต้องล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าให้สะอาด เพราะออยล์ที่ตกค้างอาจจะทำให้เกิดสิวอุดตันได้นะคะ

7 ตุลาคม 2552

Blue Makeup : Blue color mascara

วิธีแต่งแต้มความสดใสอินเทรนด์ให้ใบหน้าในโทนสีฟ้าที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ ปัดมาสคาร่าสีฟ้า นอกจากจะสวยขึ้นกว่าทุกๆวันแล้วยังประหยัดเงินประหยัดเวลาอีกต่างหาก สาวๆที่ยังไม่กล้าพอที่จะปัดมาสคาร่าสีฟ้าล้วนๆ อาจจะเริ่มจากการปัดมาสคาร่าสีดำที่ใช้อยู่เป็นประจำ แล้วใช้มาสคาร่าสีฟ้าปัดทับเพื่อเพิ่มประกายความโดดเด่นขึ้นมาอีกนิดอย่าง Rihanna หรือจะปัดมาสคาร่าสีฟ้าไปเลยเต็มๆ หลังจากที่แต่งตาด้วย electric blue eyeshadow เหมือนกับ Maria Menounos ที่แต่งหน้าอย่างบางเบา เลือกลิปสติกสีนู้ด ทำให้เน้นความสดใสของดวงตาไปเต็มๆ

makeupforlife.net   makeupforlife.net


Cobalt / Electric blue mascara มาแรงสำหรับฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ค่ะ มาสคาร่าสีนี้จะปัดแล้วสวยมากๆสำหรับสาวดวงตาสีเข้มของสาวเอเชียอย่างเรา 

Navy mascara สีน้ำเงินเข้มทำให้ดวงตาดูสีอ่อนลง

Teal / Turquouise mascara สีฟ้าสดใสแบบนี้ก็เหมาะกับดวงตาสีเข้มเช่นกันค่ะ


Anna Sui Long Lash Mascara - No. 100 Blue 7g/0.23oz

Estee Lauder More Than Mascara - No. 03 Rich Navy 7ml/0.2oz

Christian Dior Diorshow Unlimited Mascara - # 258 Azure Blue 6ml/0.2oz

ภาพประกอบ makeupforlife.net

6 ตุลาคม 2552

Blue Makeup : Rihanna’s blue eye makeup

จากบลอคตอนที่แล้วที่ได้บอกไปว่า สีฟ้า เป็นเทรนด์มาแรงของฤดูใบไม้ร่วง 2009 วันนี้ก็เลยมีแนวทางการเมคอัพด้วยสีฟ้ามาให้ดูกันค่ะ

การแต่งตาด้วยสีฟ้าจะช่วยให้ดวงตาสดใส ยิ่งถ้าเป็นสาวๆที่มีผิวขาวเปล่งปลั่ง วันไหนที่รู้สึกเหนื่อยล้าละก็ ลองหยิบไอเท็มสีฟ้าขึ้นมาแต่งแต้มใบหน้า จะช่วยสร้างความสดใสให้คุณได้แน่นอนค่ะ และเหตุผลหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้สาวๆหลงใหลในการแต่งหน้าโทนสีฟ้าก็คือ สีฟ้าช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์! แต่จะอ่อนเยาว์ได้จริงรึเปล่านั้น เทคนิคอยู่ที่การเลือกสีฟ้าที่เหมาะกับสีผิวของเราค่ะ ซึ่งมีดังนี้

  • สำหรับมือใหม่หัดแต่ง(สีฟ้า) พยายามเลือกใช้สีน้ำเงินเข้มเข้าไว้ค่ะ
  • เลือกใช้ไอเท็มที่มีประกายเพื่อเพิ่มความเจิดจรัสให้ดวงตา
  • อย่าทาอายแชโดว์สีฟ้าเลยรอยพับเปลือกตา ถึงแม้ว่านางแบบในนิตยสารจะแต่งดวงตาด้วยสีฟ้าอย่างเต็มที่และดูสวยเพียงใด ขอแนะนำไม่ให้คุณเลียนแบบ เพราะมันไม่สามารถดูดีได้ในชีวิตจริงนะคะ

blingingbeauty.com   blingingbeauty.com

ตัวอย่างของการแต่งดวงตาด้วยสีฟ้าที่นำมาให้ดูกันวันนี้ เป็นการเขียนขอบตาด้วย electric blue eyeliner ของสาวมั่น Rihanna มีเพียงอายไลน์เนอร์สีฟ้าแท่งเดียวง่ายๆแค่นี้ ก็ทำให้ดวงตาของริฮันนาเปล่งประกายบลิ๊งๆและดูโดดเด่นที่สุดบนใบหน้า

หากใครติดตามสาวคนนี้มาโดยตลอด จะสังเกตได้ว่าเธอชอบเขียนตาในสไตล์ Cat’s eye ซึ่งเป็นสไตล์ที่บ้านเรานิยมกันมาก จึงไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับสาวๆที่จะต้องฝึกเขียนอายไลเนอร์แบบนี้ เพียงแค่เปลี่ยนจากอายไลเนอร์สีดำที่ใช้อยู่มาเป็นอายไลเนอร์สีฟ้า เพื่อให้อินเทรนด์

สาวๆคนไหนยังข้องใจกับวิธีการเขียนตาสไตล์สาวริฮันนา ลองไปดูวีดีโอ how to ได้เลยค่ะ

blogs.smarter.com

มาถึงลุคนี้ของริฮันนาที่ฉีกกฎการแต่งตาด้วยสีเงินหรือสีทองเมื่อสวมเดรสสีแดงไปได้เลย สีน้ำเงินเข้มที่เธอเลือกใช้มาจาก NARS Duo Shadow : Jolie Poupee 

เคล็ดลับในการทาอายแชโดว์สีฟ้าจากเครื่องสำอาง NARS

- ใช้แปรงเบลนด์อายแชโดว์บนเปลือกตาจนดูกลมกลืนไร้รอยต่อของสี

- แต่งตาก่อนเป็นอันดับแรก ตามด้วยปัดมาสคาร่าและอายไลเนอร์ แล้วจึงลงรองพื้นและแต่งหน้าในขั้นตอนอื่นๆ

- สำหรับสาวๆที่ชอบลุค smoky eye ให้ใช้ดินสอเขียนขอบตาสีฟ้า ตามด้วยอายแชโดว์สีฟ้าที่ใช้แปรงตกแต่งจนได้เส้นขอบตาที่นุ่มนวล

 

ข้อมูลและภาพประกอบ blingingbeauty, smarter beauty blog

Related Posts with Thumbnails

จองสปาราคาพิเศษที่สุโขสปา

Join My Community at MyBloglog!