NARS Cosmetics Fall Collection 2010 Online Exclusive: Super Restorative Age-Defying Set - a $207 value for $132!

25 สิงหาคม 2552

Warning : 14 สารเคมีที่นิยมใช้ในเครื่องสำอาง

ภาพประกอบ http://beautycaremanual.com/ น่าตกใจที่พบว่าผู้หญิงเราซึมซับสารเคมีผ่านจากเครื่องสำอางที่ใช้ทุกชนิด เฉลี่ยรวมปีละเกือบ 2 กิโลกรัม อันอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเก็บสารพิษตกค้างไว้ในร่างกาย เมื่อไม่สามารถกำจัดออกได้ตามธรรมชาติ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยนานาประการได้ในอนาคต ...และนั่นคือเหตุผลสำคัญ ที่เราควรจริงจังกับการเลือกสรรเครื่องสำอางให้มากขึ้นเสียที 
 
เพื่อให้เราเลือกใช้เครื่องสำอางได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงอยากชวนให้สาวๆมาศึกษาสารเคมีที่พบในเครื่องสำอางกันดีกว่าค่ะ ถึงแม้ว่าสารเคมีเหล่านี้จะผสมในปริมาณที่ปลอดภัย แต่ขึ้นชื่อว่าสารเคมีแล้วละก็ หากสาวๆหลีกเลี่ยงได้หรือเลือกซื้อเครื่องสำอางที่มีสารเคมีเหล่านี้ทั้งชนิดและปริมาณน้อยที่สุดก็จะเป็นการดีต่อสุขภาพในระยะยาวค่ะ

1. Mineral Oil (Petrolatum)
เป็นสารที่แยกได้จากการสกัดน้ำมันปิโตรเลียม มักถูกนำมาใช้ในเครื่องสำอางจำพวกเบบี้ ออยล์ และเครื่องสำอางประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำหน้าที่ในการเก็บรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว เเต่ด้วยเพราะเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่จึงอาจเกิดการตกค้างที่ผิว เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิว อาทิ ปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนอุดตัน ผิวหนังอักเสบ ฯลฯ

2. Propylene Glycol
ใช้เพื่อป้องกันการจับตัวกันเป็นของแข็ง ในภาคอุตสาหกรรมถูกนำไปใช้ในการทำละลาย อาทิ สีและพลาสติก และถูกนำมาใช้กับเครื่องสำอางในกลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำหน้าที่เก็บรักษาความชุ่มชื่นในเครื่องสำอาง ซึ่งหากใช้ในปริมาณน้อยจะไม่เป็นอันตรายหรืออาจระคายเคือง แต่หากสะสมในปริมาณมาก อาจทำให้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และมีเเนวโน้มเป็นสารตั้งต้นสารก่อมะเร็ง

3. Triethanolamine (TEA)
พบมากในเครื่องสำอางจำพวกบอดี้ โลชั่น แชมพู โฟมโกนหนวด และครีมบำรุงรอบดวงตา กับหน้าที่ในการปรับค่า pH ไม่ให้เป็นกรด-ด่าง มากเกินไป ซึ่งหากร่างกายได้รับในปริมาณน้อยก็อาจไม่เกิดอันตราย แต่หากสะสมในปริมาณมาก อาจทำให้ผิวระคายเคือง อย่างไรก็ดี สตรีมีครรภ์ควรเลี่ยง เพราะเป็นสารเคมีที่มีผลต่อทารกในครรภ์ในช่วงพัฒนาการทางสมอง

4. IPM (Isopropyl Myristate)
ใช้กันมากในวงการเครื่องสำอาง กับคุณสมบัติในการเคลือบผิวเพื่อเก็บรักษาความชุ่มชื่น อย่างไรก็ดีจากการทดลองในสัตว์ พบว่า สารเคมีชนิดนี้ทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองและอาจทำให้เกิดปัญหาทางผิวหนังได้

5. Polyethylene
สารเคมีชนิดนี้ถูกพบมากในเครื่องสำอางจำพวกสครับ เนื่องจากเป็นพลาสติกที่ลื่นมัน ยืดหยุ่นดี จึงใช้ทำหน้าที่เป็นเม็ดสครับผิวได้ แต่เนื่องจากเป็นสารเคมีจำพวกพลาสติก จึงถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมในของใช้ต่างๆอาทิ ขวดใส่สารเคมี ขวดใส่น้ำ บรรจุภัณฑ์ ฉนวนไฟฟ้า หรือแม้แต่เก้าอี้ ซึ่งแม้จะไม่สามารถซึมผ่านสู่ผิวหนังได้ แต่ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวและไม่เป็นมิตรกับร่างกาย

6. Imidazolidinyl and Diazoliddinyl Urea
สารกันเสียชนิดนี้ถูกนำมาใช้ทั่วไปในกลุ่มเครื่องสำอางกับหน้าที่ในการกำจัดแบคทีเรียหรือจุลชีพต่างๆ แต่ด้วยการสลายตัวที่ทำให้เกิดสารฟอมาลดีไฮด์ (Formaldehyde) จึงทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบหายใจได้ ซึ่งพิษสะสมอาจทำให้การทำงานของเซลล์ร่างกายผิดปกติ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็ง

7. Paraben
สารกันเสียที่นิยมใช้อย่างมากในกลุ่มเครื่องสำอางจำพวกผิวหนังและเส้นผม รวมถึงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเพราะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่เนื่องจากเป็นสารเคมีที่พบในผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ง่ายต่อการสะสมในร่างกาย หลายองค์กรจึงรณรงค์ให้เลี่ยงการใช้พาราเบนที่พบว่าเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิว อาจขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ และอาจเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม

8. SLES (Sodium Laureth Sulfate)
นิยมเติมลงในเครื่องสำอางจำพวกแชมพู หรือเจลอาบน้ำเพื่อทำให้เกิดฟองและลดแรงตึงผิว สามารถพบได้ในแชมพูเกือบทุกประเภท ด้วยผู้บริโภครู้สึกว่าสามารถกำจัดไขมันออกจากผิวและผมอย่างหมดจด แต่แท้จริงแล้ว สารลดแรงตึงชนิดนี้มีส่วนเสียคือ มีฤทธิ์ทำให้กระบวนการป้องกันผิวและเส้นผมตามธรรมชาติอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการระคายเคือง และหากกระบวนการผลิตมีการปนเปื้อนก็อาจเป็นสารก่อมะเร็งได้

9. Artificial Color
มีเครื่องสำอางจำนวนไม่น้อยที่ใช้สีในการเติมแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม น่าใช้ บางชนิดเป็นสารเคมีสังเคราะห์ และบางชนิดเป็นสีที่ใช้ในอาหาร (Food grade - ซึ่งค่อนข้างมีความปลอดภัย) อย่างไรก็ดี ย่อมเป็นการปลอดภัยกว่าในการงดการใช้สีที่มาจากการสังเคราะห์ทุกประเภท เนื่องจากอาจมีสารหนัก รวมทั้งสารหนูและสารตะกั่ว อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง

10. Silicone 
ซิลิโคนมีลักษณะคล้ายยาง มีความยืดหยุ่นสูงและมีอยู่หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทใช้งาน แต่ถูกนำมาใช้ในวงการความงามอย่างแพร่หลาย โดยในเครื่องสำอางนั้น มักถูกนำมาใช้กับครีมนวดผมเพื่อให้รู้สึกนุ่มลื่น ช่วยเคลือบเส้นผมให้ดูเงางาม นุ่มสลวย แต่อาจเกิดการสะสมในตับและต่อมน้ำเหลืองหากใช้ในปริมาณมาก ซึ่งสามารถเป็นตัวเร่งการเกิดเนื้องอกและมะเร็งได้ 

11. Petroleum Derivative
สารเคมีที่ได้มาจากการแยกน้ำมันปิโตรเลียม มักถูกนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหลายประเภท อาทิ ครีมรองพื้น ครีมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว เพื่อทำหน้าที่เก็บกักความชุ่มชื่นผิวโดยการเคลือบผิวไว้ แต่ด้วยความที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่และผ่านกรรมวิธีทางเคมี จึงอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง อุดตันผิว และเกิดสิวได้ และหากเก็บกักสะสม อาจเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของผิว และทำให้ฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันในเพศหญิงอ่อนแอ

12. Synthetic Polymer
โพลิเมอร์มีสารตั้งต้นจากพลาสติกที่ผ่านกระบวนการทางเคมีให้มีความเหนียวนุ่ม ยืดหยุ่น นิยมนำมาทำบรรจุภัณฑ์อาหาร รวมทั้งเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาทิ ครีมนวดผม หรือเจลแต่งทรงผม ทำหน้าที่หลากหลายขึ้นอยู่กับการใช้งาน อาทิ การเพิ่มเนื้อสัมผัส การเคลือบผิว หรือการเก็บรักษาความชุ่มชื่น อย่างไรก็ตาม มีสารโพลิเมอร์บางชนิดสามารถหาได้จากพืช อาทิ มันสำปะหลัง ข้าวโพด และมะพร้าว ซึ่งเป็นมิตรกับธรรมชาติและเหมาะสมกับร่างกายของเรามากกว่า

13. PEG (Polyethylene Glycol)
สารเคมีสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนสารเพิ่มความชุ่มชื่น มักถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ความงามจำพวกทำความสะอาดและบำรุงผิว โดยสถาบันเผยแพร่ข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัตถุในสหรัฐอเมริกา (III) ได้ออกคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีชนิดนี้ เพราะระคายเคืองต่อผิวสูง และอาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติในตับและไต และอาจเกิดการปนเปื้อนจากการผลิตซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับและจมูก 

14. Quats
สารชะล้างที่มักนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ขัดล้างต่างๆ อาทิ น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาขัดพื้น และ ด้วยความที่เป็นสารเคมีรุนแรง จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวเกิดผดผื่น แพ้ และทำลายระบบทางเดินหายใจหากใช้นำมาใช้กับเครื่องสำอางจำพวกแชมพู หรือเจลอาบน้ำทั้งหลาย เพื่อให้รู้สึกถึงการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามนปริมาณสูงและใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

เห็นมั๊ยคะว่ามีหลายตัวเลยที่เราพบในฉลากเครื่องสำอาง ครั้งต่อไปอย่าลืมศึกษาฉลากส่วนผสมซักเล็กน้อยก่อนเลือกซื้อ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงกับสารเคมีเหล่านี้ หรือเลือกซื้อเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมหลักมาจากธรรมชาติ ก็จะช่วยลดการสะสมของสารเคมีในร่างกายได้มากขึ้นค่ะ

แบ่งปัน

อ้างอิง Sabai-arom

comments

0 Responses to "Warning : 14 สารเคมีที่นิยมใช้ในเครื่องสำอาง"
Related Posts with Thumbnails

จองสปาราคาพิเศษที่สุโขสปา

Join My Community at MyBloglog!