วันนี้มารีวิวแบบ battle เปรียบเทียบคุณสมบัติให้เห็นกันไปเลยค่ะ ระหว่าง L’Occitane Shea Butter และ Oriflame Tender Care ซึ่งทั้งสองตัวนี้เป็นไอเท็มขายดีของทั้งสองแบรนด์ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นคล้ายๆกันคือ ประสิทธิภาพในการมอบความชุ่มชื่นให้กับผิว ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก จมูกเล็บ หรือส่วนอื่นๆที่แห้งกร้าน
เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนค่ะ แพคเกจของ L’Occitane หน้าตาดูดี เป็นกระปุกสังกะสีแปะสติกเกอร์แนวเรโทรหน่อยๆ ตลับเล็กพกพาง่าย แต่ปัญหาที่พบบ่อยก็คือ ฝาตลับบางอันปิดไม่สนิท ทำให้เสี่ยงต่อการไหลเยิ้มเวลาพกพา เนื่องจากเป็น shea butter 100% ซึ่งละลายง่ายเมื่อโดนความร้อน ยิ่งบ้านเราร้อนๆแบบนี้ ถ้าตลับปิดไม่สนิทก็ลำบากเวลาพกพาใส่กระเป๋าเครื่องสำอางค่ะ ส่วนแพคเกจ Oriflame เป็นกระปุกพลาสติก มีฝาปิดเป็นเกลียว ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องปิดไม่สนิท แต่ส่วนผสมหลักของ Tender Care เป็นขี้ผึ้งและน้ำมันจากพืช ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการละลายง่าย ขนาดกระปุกก็เล็กๆสามารถพกพาได้สะดวกเช่นกัน แต่ดีไซน์อาจจะดูโบราณไปซักนิด และไม่สะดวกใช้งานสำหรับสาวๆที่เล็บยาว เพราะต้องใช้นิ้วล้วงเข้าไปในกระปุก อาจจะติดเข้าไปในซอกเล็บได้ง่ายๆค่ะ
ปริมาณและราคาเห็นความแตกต่างชัดเจน ขณะที่ L’Occitane 8 ml. มีราคาเป็น 2 เท่าของ Oriflame 15 ml. ซึ่งไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ค่ะ เพราะเป็น shea butter 100% ซึ่งกว่าจะได้เนื้อ shea butter มาแบบนี้ ชาวแอฟริกาตะวันตกต้องรอให้ผลตกสู่พื้น (ไม่มีการเก็บจากต้นเด็กขาดค่ะ) นำมาตากแห้ง และบดให้เป็นเนื้อเนียน ก็คงต้องยอมให้ไปในค่าความพยายามค่ะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงๆแล้วชาวแอฟริกันจะได้เงินไปเท่าไหร่ และผู้ผลิตจะได้เงินไปเท่าไหร่ –”-
ด้านประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่ค่ะ ทาปากที่แห้งแตกก็ช่วยให้กลับมาดูดีเหมือนเดิมได้ ทาจมูกเล็บที่แข็งๆหรือลอกเป็นขุยก็ช่วยได้เยอะเลย เราประสบปัญหาหนังรอบเล็บลอก เลือดออกซิบๆบ่อยๆเวลามือแห้งค่ะ ทาไม่กี่ครั้งมือก็กลับมาเป็นมือเหมือนเดิมแล้ว L’Occitane จะค่อนข้างมันกว่านิดนึง แต่กลิ่นดีค่ะ ออกแนวอโรมา ส่วน Oriflame ไม่มีกลิ่น
เป็นไอเท็มที่แนะนำให้สาวๆมีติดตัวไว้ค่ะ เพราะอเนกประสงค์จริงๆ ใช้แทน lip blam และ hand cream ได้เลย แถมยังใช้จัดแต่งทรงผมยามฉุกเฉินได้อีกต่างหาก สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่เด็กๆก็ใช้ได้โดยไม่ระคายเคืองค่ะ
Useful Link
ข้อมูลจากผู้ผลิต L’Occitane, Oriflame