ยุคนี้เป็นที่นิยมกันว่าสาวๆต้องขาวใสแบบมีออร่า เครื่องสำอางต่างๆก็เลยพากันออกผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวจำพวก whitening นานาชนิด มาจนถึงอาหารเสริมเพื่อผิวขาวซึ่งเริ่มแรกนั้นเป็นนิยมในหมู่ดารา และแพร่หลายไปทั่วไม่เว้นแม้แต่เด็กมัธยมทั้งหนุ่มและสาว ใครๆก็อยากสาวใสกันทั้งนั้น ถึงแม้หน้าตาจะไม่เข้าข่ายพิมพ์นิยม แต่ถ้าผิวขาวใสซะอย่าง ยังไงก็ดูมีสง่าราศีมากกว่าผิวหมองๆไม่สดใสใช่มั๊ยคะ
กลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่งได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งแล้ว และยังอยู่ในกระแสได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากส่วนใหญ่รับประทานแล้วเห็นผลชัดเจนว่าขาวใส จุดด่างดำลดเลือนลงได้จริง ซึ่งการที่มีผลทำให้ผิวขาวขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจากคุณสมบัติของกลูตาไธโอนที่จะช่วยยับยั้งกระบวนการ melanogenesis หรือกระบวนการยับยั้งการสร้างเม็ดสี (melanin) แต่เป็นเพียงการยับยั้งชั่วคราวเท่านั้น ถ้าหยุดทานกลูตาไธโอน ร่างกายก็จะผลิตเมลานินขึ้นมาเหมือนเดิม แต่จริงๆแล้วเมลานินมีประโยชน์มากกว่าที่คิดนะคะ เพราะทำหน้าที่กรองรังสี UV ทั้ง UVA ที่ทำให้ผิวแก่ และ UVB ที่ทำให้ผิวไหม้ และเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นการรับกลูตาไธโอนเข้าสู่ร่างกายจึงเป็นการเร่งให้ผิวได้รับรังสี UV มากกว่าปกติ เพราะเมลานินซึ่งเป็นเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาตินั้นถูกยับยั้งให้สร้างได้น้อยลงนั่นเอง
นอกจากนี้การกินกลูตาไธโอนโดยตรง ไม่สามารถดูดซึมผ่านทางเดินอาหารได้มากเท่าที่เราคิด เนื่องจากกลูตาไธโอนเป็นโปรตีนตัวหนึ่งซึ่งถูกย่อยในกระเพาะอาหาร และมีเพียงส่วนน้อยมากที่จะผ่านเข้าสู่กระแสเลือดหรือเนื้อเยื่อของร่างกาย ในการวิจัยพบว่าการกินกลูตาไธโอน 3 กรัม (3,000 มิลลิกรัม) ไม่มีผลต่อการเพิ่มปริมาณกลูตาไธโอนในกระแสเลือด
วิธีการเพิ่มกลูตาไธโอนในร่างกายที่ดีและปลอดภัยที่สุดน่าจะเป็นการรับประทานสารตั้งต้นของกลูตาไธโอน คือ กรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ สเตอีน, กลูตาเมต และไกลซีน ซึ่งมีบทความระบุว่า การรับประทานอาหารที่มีกรดอะมิโนทั้ง 3 ชนิดนี้ สามารถเพิ่มการสร้างกลูตาไธโอนในร่างกายได้มากกว่าการรับประทานกลูตาไธโอนโดยตรง ซึ่งกรดอะมิโน 3 ชนิดนี้มีมากในโยเกิร์ต เนื้อเป็ด ข้าวโอ๊ต จมูกข้าว ชีส พริกหวานแดง กระเทียม หอมใหญ่ บรอคโคลี่ เป็นต้น ส่วนอาหารที่พบกลูตาไธโอนมาก ได้แก่ ผักและผลไม้ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง อะโวคาโด วอลนัท เนื้อสัตว์และเนื้อปลา
ส่วนผลเสียของการรับกลูตาไธโอนมากเกินไป หากเป็นกรณีของการรับประทานกลูตาไธโอนที่เป็นพวกอาหารเสริม ไม่น่าจะเกิดผลเสียใดๆค่ะ เพราะจากข้างต้นที่ระบุไว้ว่า ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้มากจากการกิน แต่กรณีที่ฉีดกลูตาไธโอนเข้าสู่ผิวก็สามารถเป็นอันตรายได้ค่ะ เพราะการฉีดต้องฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น
เรียบเรียงจาก http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q8663576/Q8663576.html
comments
2 Responses to "เรื่องน่ารู้ของ Glutathione"18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 03:55
ขอบคุณข้อมูล
9 พฤษภาคม 2553 เวลา 00:27
Ultra-Violet ray is harmful to us. Glutathione is an antioxidants that protect our cell from free radicals.
แสดงความคิดเห็น